Page 69 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การยกจิตขึ้นสู่ความว่าง
P. 69
65
เพราะเวทนาไมเ่ ทยี่ ง การเขา้ ไปกา หนดรเู้ วทนา จรงิ ๆ แลว้ การพจิ ารณาแบบนี้ หนงึ่ การทกี่ า หนดรแู้ บบนี้ คอื กา หนดรถู้ งึ สภาวธรรมทกี่ า ลงั ปรากฏจรงิ ๆ เวทนาเปน็ อนตั ตา และบงั คบั บญั ชาเขาไมไ่ ด้ ใหห้ ายเดยี๋ วนี้ ก็ไม่ได้ จะให้หยุดเลยก็ไม่ได้ ก็ต้องรู้ว่าเขาเปลี่ยนแปลงอย่างไร เกิดดับอย่างไรไป แต่ในขณะเดียวกัน บงั คบั ไมไ่ ด้ เวทนากเ็ ปลยี่ นแปลง ทนี กี้ ารกาหนดรเู้ วทนาแบบนเี้ พอื่ อะไร การทแี่ ยกจติ กบั เวทนานนี่ ะ ปกติ เราจะรู้สึกว่าร่างกายนี้ เป็นที่ตั้งแห่กองโรค เป็นที่ตั้งแห่งความทุกข์ เป็นประชุมของโรคหลาย ๆ อย่างเลย
โดยเฉพาะผู้มีราตรีอันยาวนานเนอะ! เอ่อ! ร่างกายนี่นะก็มีที่ประชุมหลาย ๆ โรค ทั้งความดันเอย โรคกระดกู เอย หลาย ๆ อยา่ ง เตม็ ไปหมด คอื ทปี่ ระชมุ ของโรค แตเ่ วทนานนี่ ะ เวทนาทเี่ กดิ ขนึ้ การพจิ ารณา ถึงสภาวะเวทนาที่เกิดขึ้น เป็นสภาวธรรมอย่างหนึ่งที่พึงกาหนดรู้ การกาหนดรู้เวทนา พอแยกแบบนี้ปุ๊ป ทาให้เวทนา...เมื่อเห็นว่าเวทนาอยู่ในที่ว่าง ๆ เป็นคนละส่วนกับเรา เป็นคนละส่วนกับจิต ไม่มีมีใครเป็น เจ้าของ ลองดูนะว่า ถ้าเห็นว่าเวทนานั้น ไม่มีใครเป็นเจ้าของจริง ๆ จิตใจจะเป็นอย่างไร ซึม ๆ หดหู่ ห่อ เหี่ยว สลัว ๆ หรือผ่องใส เห็นไหม ตรงนี้แหละสาคัญ
เวทนาที่เกิดขึ้น ไม่ทาให้จิตเป็นอกุศล ไม่ทาให้จิตเกิดความขุ่นมัว เศร้าหมอง หรือมีความอึดอัด ขัดเคือง หงุดหงิด ราคาญ เพราะเมื่อไหร่ก็ตาม ที่เวทนาเกิดขึ้นแล้ว อึดอัด ขัดเคือง จิตเขาจะปรุงแต่งไป ต่าง ๆ นานา เป็นอกุศลเกิดขึ้น ตรงนี้เป็นอกุศลจิต เป็นอกุศลกรรม เป็นมโนกรรม คิดอย่างนั้นอย่างนี้ กลายเปน็ วา่ สรา้ งกรรม ทา มโนกรรม ทา ใหจ้ ติ เกดิ ความขนุ่ มวั เศรา้ หมอง ถา้ เราตายตอนนนั้ จะเปน็ อยา่ งไร ทุคติเป็นอันหวังได้เลย
เพราะเวทนาทเ่ี กดิ ขนึ้ มนั บบี คนั้ จติ ใจคนเรา จนเกดิ ความขนุ่ มวั เศรา้ หมอง เกดิ ความเครยี ด ตา่ ง ๆ นานา มากมาย เราเครียดเราปวดคนเดียวไม่พอ คนข้าง ๆ ก็พลอยลาบาก มันเป็นอาการที่...เพราะกระแส จิตที่ถูกบีบคั้นด้วยความทุกข์ มันแผ่ออกไปให้คนข้าง ๆ ได้รับรู้ พอรับรู้ปุ๊ป ความเร่าร้อนก็แผ่ออกไป เกิด ความวิตกกังวลไปสารพัด เกี่ยวข้องกันโยงถึงกัน เพราะฉะนั้นการกาหนดรู้แบบนี้ การกาหนดด้วยสติ เรา แยกกันปุ๊ป พอแยกกัน เวทนาที่เกิดขึ้นเกิดอยู่ในที่ว่าง ๆ ไม่ใช่ของเรา แล้วรู้ว่าต้องทาอย่างไร
การที่รู้เวทนาสักแต่ว่าเวทนา ไม่ใช่เราไม่ใช่ของเรา จิตจะคลายอุปาทาน เวทนาก็สักแต่ว่าเวทนา แล้วเวทนาไม่เที่ยง มีการเปลี่ยนแปลง เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป พอใจที่จะรู้ถึงการเปลี่ยนแปลง เกิดขึ้นตั้งอยู่ ดับไป แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราไม่มีกาลัง มีความปวดรู้สึกว่า โอ้!ไม่ไหวแล้วนะ สู้ไม่ไหวเวทนาแบบนี้ สู้ไม่ไหวก็ ถอยจติ ออกมา ทา จติ ใหก้ วา้ ง ๆ วา่ ง ๆ ดจู ติ เรากอ่ น เพมิ่ พลงั ใหต้ วั เอง แลว้ เขา้ ไปรใู้ หม่ แตถ่ า้ ไมไ่ หวจรงิ ๆ ตอนที่เราปฏิบัติธรรม สามารถขยับได้เปลี่ยนท่าได้ ขยับได้เปลี่ยนท่าได้ เพื่อบรรเทาเวทนานั้น หรือใครจะ ลองวิชาว่า ฉันจะแก่กล้าแค่ไหนก็ได้ สู้...กัดฟันเต็มที่เลย สู้กับเวทนาเต็มที่ เพื่อที่จะรู้ว่าจิตเราจะเข้มแข็ง แค่ไหน ไม่ใช่ชนะเวทนาอย่างเดียวนะ เพื่อที่เราจะไม่ทุกข์ ลองทนสู้ ๆ กับเวทนา
ทีนี้อีกอย่างหนึ่ง เมื่อกี้นี้บอกว่า เวทนาเกิดอยู่ที่หัวเข่า ลองดูนะว่า ยังมีรูปร่างหัวเข่าอยู่ไหม ทีนี้ ทาแบบนี้ ลองทาตามนะ ทาตาม ๆ ลองดูว่า พอเราแยกจิต ทาจิตให้ว่าง ๆ ทาจิตให้ว่างแล้วนี่นะ ลองเอา จิตที่ว่าง ๆ ไปส่วนไหนของร่างกาย เริ่มจากตรงไหน...ที่หน้าเรา ถ้าจิตที่ว่าง ๆ เบา ๆ มาไว้ที่หน้า ลองดูว่า