Page 77 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การยกจิตขึ้นสู่ความว่าง
P. 77
73
ความเป็นอนัตตา ความเป็นสุญญตา ความไม่มีตัวตน ความว่างเปล่าของรูปอันนี้ การรู้ความว่าง เปล่าตรงนี้ เมื่อไหร่ที่เห็นแบบนี้ จิตก็จะคลายจากความอุปาทานโดยอัตโนมัติ พอกาหนดแบบนี้ปุ๊ป การ ที่เราแยก...ทีนี้พอไล่ไปเรื่อย ๆ การแยกจิตกับกายเป็นคนละส่วนกัน แต่เวลาพอเรานั่งปุ๊ป เวทนาขึ้นมาก็ ต้องมีเจตนา มีเจตนาที่จะรู้ว่า เวทนากับจิตเราเป็นส่วนเดียวกัน หรือคนละส่วนกัน
เวทนาคือความปวดที่เกิดขึ้น ไม่ว่าตาแหน่งไหนของร่างกายก็ตาม ทาไมถึงเรารู้ ทาไมถึงต้องไปรู้ ว่าเวทนากับจิต เขาเป็นส่วนเดียวกันหรือคนละส่วนกัน ประเด็นคือ เราเข้าไปรู้ถึงสัจธรรม เพื่อไม่ให้หลง เข้าไปยึด ว่าเป็นตัวเราของเรา เพราะอะไร เพราะเวทนาแบบนี้เรายึดมานาน ยึดมานานว่าเวทนาเกิดขึ้นมา เมื่อไหร่ ฉันปวด ๆ ๆ เป็นของฉัน เวทนาเป็นของฉันตลอดเวลา กว่าที่เราจะเห็นชัด ๆ จนมั่นใจ เชื่อใจได้ ว่า เรากว่าที่เราจะเชื่อตัวเองได้ว่า เราเห็นจริง ๆ นะ
คอื เมอื่ ไหรท่ เี่ หน็ จรงิ ๆ ความเหน็ ...เชอื่ นนั้ ความเชอื่ นนั้ เราจะไมเ่ คลอื บแคลงสงสยั เพราะเหน็ ดว้ ย ตาตัวเอง ตรงนี้แหละจะเป็นการตัดวิจิกิจฉา ความลังเลสงสัยในธรรมของพระพุทธเจ้า ที่พระพุทธเจ้าตรัส วา่ ไมใ่ ชข่ องเรา มนั เกดิ อยตู่ รงนเี้ ปน็ ของไมเ่ ทยี่ ง ไมอ่ ยา่ งนนั้ กเ็ ชอื่ บา้ งไมเ่ ชอื่ บา้ ง เวลาใจดกี เ็ ชอื่ พระพทุ ธเจา้ เวลาใจไม่ดีก็ไม่เชื่อแล้ว ก็เหมือนเวลาเราสบายใจ โอ้!ใช่แหละ ธรรมะเป็นอย่างนั้น ๆ เวลาเราทุกข์...ไม่ แน่ใจ ทาไมถึงเป็นแบบนี้ ไม่เป็นธรรมะแล้ว นี่คืออย่างหนึ่ง
แต่ถ้าเรากาหนดชัดเห็นจริง ด้วยตาตัวเอง ด้วยตาปัญญาของเราเอง เราจะไม่เคลือบแคลงสงสัย และเราจะยอมรับถึงสัจธรรม...รับได้ ยอมรับได้ บางทีเราเข้าใจถึงสัจธรรม แต่รับสัจธรรมตรงนั้นไม่ได้ รับความจริงไม่ได้ เพราะอะไร เพราะยังรู้สึกว่า มันน่าจะไม่ใช่อย่างนี้นะ ทั้ง ๆ ที่จริงเป็นอย่างนี้ แต่มันน่า จะไม่ใช่อย่างนี้นะ ทาไม ถ้าเป็นอย่างนี้ ฉันก็แย่สิ ฉันทนไม่ได้ มันน่าจะเป็นอย่างอื่นนะ ฉันจะได้ทนได้ นิดเดียว...ลองดูความละเอียดของจิตเรา
เพราะฉะนั้น การกาหนดรู้แยกส่วนกัน รู้ซ้า ๆ ก็จะทาให้เราเห็นชัดมากขึ้น นี่คือหลักของการเจริญ กรรมฐาน ทนี ตี้ อ่ ไป อาจารยส์ รปุ หมดเลยนะ อาจารยส์ รปุ ใหห้ มดแลว้ ไมต่ อ้ งอะไรหรอก จา กพ็ อแลว้ ทนี กี้ ็ คอื วา่ เวลาเรารู้ ทบี่ อกวา่ ถา้ เรารเู้ วทนาดบั และจติ ดบั ดว้ ย ตรงนตี้ อ้ งไปหาเองนะ เปน็ สงิ่ ทโี่ ยคจี ะตอ้ งพจิ ารณา เวลาอาการเวทนาดับ อาการดับจิตดับด้วยไหม อันนี้ไม่ใช่เฉพาะกับเวทนา แม้แต่ลมหายใจ แม้แต่อาการ พองยุบ แม้แต่ความคิด อันนี้ละเอียดขึ้น ให้กาหนดแบบนี้ สังเกตต่อไปนะ
เยอะแล้วนะ ถ้าทาได้แบบนี้ ชาตินี้สบาย ไม่ต้องห่วง แล้วชาติหน้าก็ไม่ต้องห่วงแล้ว ให้กาหนดไป เพราะฉะนั้นเวลาเราปฏิบัติธรรม เวลาปฏิบัติต้องเอาจริง เพราะเป็นเรื่องชีวิตของเรา และมันเป็นแก่น ของชีวิต เป็นสภาวธรรมจริง ๆ ใครที่เห็นสัจธรรมตรงนี้ นี่คือสิ่งสาคัญที่สุด ในชีวิตของคนเรา เพราะจะ ทาให้เราพ้นทุกข์ ดับทุกข์ ละทุกข์ และปัญญาตรงนี้ อย่างที่เคยบอกแล้วว่า เป็นบารมีที่จะสั่งสมข้ามไปใน ภพชาติถัดไปด้วย ถ้าเรายังเกิดต่ออีก เขาเรียกปัญญาบารมี เราเรียกทานบารมี ศีลบารมี เนกขัมมบารมี ปัญญาบารมี