Page 47 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การกำหนดต้นจิตอิริยาบถย่อย
P. 47
165
จางไปเหลือแค่อาการอย่างเดียว เราสังเกตอาการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นอยู่ในที่ว่าง ๆ คลายอุปาทานไม่มีตัว ตน แล้วสังเกตอาการเดิน เวลาจะยก เคลื่อน ย่าง เหยียบลงนี่นะ เขามีอาการอย่างไร ตรงนี้จะทาให้เราเข้า ถึงสภาวปรมัตถ์ได้ชัด ได้เร็วขึ้น ให้พอใจที่จะกาหนดรู้ซ้า ๆ ๆ ทาแบบนี้ ลองดู
ควรจะทา ดู ลองทา ใหต้ อ่ เนอื่ งดู ลองดวู า่ เมอื่ กา หนดแบบนแี้ ลว้ สงั เกตดสู ภาวะจะเปลยี่ นไปอยา่ งไร จะเป็นอย่างไรต่อไป ต่อจากนี้ ชั่วโมงต่อจากนี้อย่าเพิ่งลืมนะ เอาไปใช้ต่อจะได้ไม่ลืม ไม่ใช่ว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ คอ่ ยใช.้ ..เดยี๋ วลมื ใชต้ อ่ ไปเลยจะไดพ้ สิ จู นท์ นั ที ทา แลว้ เปน็ อยา่ งไร เพราะฉะนนั้ คดิ วา่ คงจะเขา้ ใจกนั ขนึ้ นะ เข้าใจแล้วก็ลองทา เพื่อที่จะเข้าถึงหรือเห็นให้ชัดด้วยตัวเอง ดังนั้น วันนี้การแสดงธรรมมาก็เห็นสมควรแก่ เวลา ก็ขอหยุดไว้แต่เพียงเท่านี้ ขอความเจริญในธรรมจงมีแก่โยคีทุก ๆ คน เจริญพร
กอ่ นทเี่ ราจะลกุ เปลยี่ นอริ ยิ าบถ และปฏบิ ตั ติ ามอธั ยาศยั ตอ่ ตอนนเี้ รามาแผเ่ มตตากนั กอ่ น กอ่ นที่ เราจะแผ่เมตตาทุกครั้งขอให้น้อมถึงบุญกุศลที่เราได้ทา ทาใจให้ว่าง ๆ แล้วก็น้อมถึงบุญกุศลเข้ามาใส่ใจที่ วา่ ง ๆ ทสี่ งบ นอ้ มถงึ ความสขุ ความอมิ่ ใจความสบายใจ เขา้ มาใสบ่ รเิ วณหวั ใจเราใหเ้ ตม็ ในใจทวี่ า่ ง ๆ บรเิ วณ หวั ใจเราใหเ้ ตม็ ใหเ้ ตม็ ทงั้ ตวั ความนมุ่ นวลออ่ นโยนดว้ ย ความสขุ ความอมิ่ ใจเตมิ ใหเ้ ตม็ ทงั้ ตวั ใหล้ น้ จากตวั เพราะนั่นคือพลังบุญ ให้ล้นจากตัวให้กว้างให้เต็มทั้งห้องนี้ จิตที่เป็นบุญจิตที่มีความสุขเต็ม เมื่อรู้สึกว่าจิต เราเต็มไปด้วยบุญเต็มไปด้วยพลังของความสุข
ให้อธษิฐานจิตให้กบัตนเองด้วยอานภุาพแหง่พลังบุญนี้จงมาเปน็ตบะเปน็พลวะเปน็ปจัจัยใหเ้รา มีสติมีสมาธิมีปัญญา มีดวงตาเห็นธรรมและเข้าถึงธรรมโดยฉับพลัน
จากนนั้ แผจ่ ติ ทเี่ ปน็ บญุ จติ ทมี่ คี วามสขุ นใี้ หก้ วา้ งออกไป ใหก้ วา้ งออกไป ไมม่ ขี อบเขตไมม่ ปี ระมาณ ให้กว้างเท่าจักรวาล แล้วตั้งจิตอธิษฐานแผ่บุญกุศลอันนี้ ให้กับผู้มีพระคุณทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ครบู าอาจารย์ ลกู หลาน ญาตสิ นทิ มติ รสหาย เพอื่ นรว่ มโลกเกดิ แกเ่ จบ็ ตาย เทวดาทงั้ หลายทงั้ ทอี่ ยู่ ณ สถาน ที่แห่งนี้และที่อื่น ๆ จงรับรู้ถึงบุญกุศลที่เราได้แผ่ไปแล้วนี้ เมื่อรับรู้แล้วก็ขอให้อนุโมทนา เมื่ออนุโมทนา แล้วถ้ามีทุกข์ก็ขอให้พ้นจากทุกข์ ถ้ามีสุขก็ขอให้สุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป ถ้ามีเวรมีภัยต่อกันก็ขอให้อโหสิกรรม ซึ่งกันและกัน เพื่อความเจริญความผาสุกในชีวิตตลอดไป
และสุดท้ายนี้ ก็ขออานิสงส์กุศลผลบุญต่าง ๆ ที่เราได้ทามา ไม่ว่าจะเป็นการให้ทานการรักษาศีล การเจริญภาวนา ที่ทามาและกาลังทาอยู่นี้ จงมาเป็นตบะเป็นพลวะเป็นปัจจัย ให้เราทั้งหลายจงเป็นผู้มี ความเจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป ปรารถนาสิ่งใดก็ขอให้สาเร็จสมความปรารถนาทุก ๆ ประการ ตราบเท่า เข้าสู่มรรคผลนิพพาน ด้วยกันทุกคนเทอญ