Page 56 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การปรับอินทรีย์
P. 56

308
จริง ๆ มุ่งเข้าไปในความสงบ ในความสงบก็เป็นพลังของความสงบ มุ่งเข้าไปในความสุข ก็ต้องรู้ ความสุขมีพลังมากขึ้นไหม จิตที่สุขมีพลังมากขึ้นไหม จิตที่สงบมีพลังมากขึ้นไหม มุ่งไปในความใสก็ต้อง รู้ว่า จิตที่ใสมีพลังมากขึ้นไหม ไม่ใช่มุ่งเข้าไปแล้ว...อะไรก็ไม่รู้นะ ต้องรู้แบบนี้ เรามุ่งเข้าไปนี่นะ มุ่งไปดูจิต ที่ใสที่สงบ จิตที่ใสที่สงบ สงบอย่างไม่มีตัวตน แต่โดยสมมติ ก็ยังต้องเรียกว่าเป็นของเรา จิตเราใสขึ้น จิต เราสงบขึ้น จิตเราสว่างขึ้น หรือว่าหนาแน่นขึ้น มีพลังหนาแน่นขึ้น ตั้งมั่นขึ้น แกร่งขึ้น อันนั้นก็คือ รู้เข้าไป เรื่อย ๆ อันนี้ดูเข้าไปนะ
เพราะฉะนั้น คาว่าตัวมุ่ง คือการเพิ่มตัวมุ่งในแต่ละช่วงนี่นะ สังเกตว่า ต้องสังเกตนะว่า เวลาโยคี เล่าสภาวะตัวเอง เล่าสภาวะแบบไหน เล่าถึงอะไร ทาไมอาจารย์ให้เพิ่มตัวมุ่ง อันนี้ต้องสังเกตแบบนี้ อ๋อ! เราเล่าสภาวะ สภาวะเราเป็นอย่างนี้ พออาจารย์ให้เพิ่มตัวมุ่งปึ้บ พอเพิ่มตัวมุ่งเข้าไป สภาวะเขาเปลี่ยนไป อย่างไร นั่นคือจุดที่ต้องสังเกต ไม่ได้หมายความว่า มุ่งไปโดยที่ไม่รู้ว่ามุ่งไปไหนนะ โดยที่ไปมุ่งไปไหน ตอนไหนอาการเกิดดับแบบนี้ ที่เราเล่ามานี่นะ อาการเกิดดับแบบนี้ อาจารย์ให้มุ่ง คือมีอาการนี้ อาการ ในลักษณะอย่างนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ มุ่งต่อเนื่องไป มุ่งต่อเนื่องไป ให้เพิ่มตัวมุ่ง คือมุ่งต่อเนื่อง มุ่งต่อเนื่อง มุ่งที่จะกาหนดรู้อาการเกิดดับนั้นอย่างต่อเนื่อง จนกว่าอาการเกิดดับนั้นสิ้นสุดไป แค่ไหนแค่นั้น แล้วดูว่า ผลจะเป็นอย่างไร ผลเกิดขึ้นมาเป็นอย่างไร นั่นคือเรา...คือสิ่งที่โยคีจะต้องสังเกตนะ ลองดูนะ
เดี๋ยวต่อไป อาจารย์จะไม่ใช้เสียง ใช้เวลาให้เรานั่งปฏิบัติ กาหนดรู้สภาวธรรมที่อยู่เฉพาะหน้า ใครที่มีสภาวะ อาการเกิดดับอย่างไรที่ปรากฏขึ้นมา อย่างที่บอก อย่างที่กล่าวแล้ว ลองดู ถ้าเพิ่มตัวมุ่ง เข้าไปที่อาการเกิดดับ มุ่งเข้าไปรู้อาการเกิดดับอย่างต่อเนื่อง แล้วจะเป็นอย่างไร สภาวธรรมจะเป็นอย่างไร สภาวธรรมจะเป็นอย่างไร อันนี้ ทั้งสภาพจิตแล้วก็อาการ ทั้งสภาพจิตแล้วก็อาการ อาการที่เกิดดับ ที่กาลัง ปรากฏเกดิ ขนึ้ มา สภาพจติ เราทงั้ รอบตวั ทงั้ ทตี่ วั ...สภาพจติ จะเปน็ ไปอยา่ งไร เปลยี่ นไปอยา่ งไร ขอใหต้ งั้ ใจ กัน ใช้เวลาประมาณสัก ๑๕ นาที ๑๕ นาที จากนี้
อาจารย์จะไม่ใช้เสียงนะ จากนั้นก็จะแผ่เมตตากันเป็นลาดับถัดไป ขอให้ตั้งใจ...สมควรแก่เวลา นะ ตอ่ ไปเราจะแผเ่ มตตากนั กอ่ นแผเ่ มตตา...ทกุ ครงั้ ขอใหเ้ รานอ้ มระลกึ นกึ ถงึ บญุ กศุ ลความดที เี่ ราไดท้ า น้อมเข้ามาใส่ใจ หรือถ้าข้างในจิตดีอยู่แล้ว ก็ทาแผ่ให้กว้างขึ้น ทาให้มีพลังมากขึ้น น้อมเข้ามาใส่ใจ ทาให้ ใจเรามีพลังมากขึ้น จนรู้สึกว่าจิตของเรา หรือใจของเรานั้นเต็มไปด้วยพลังบุญ เต็มไปด้วยความสุข เต็ม ไปด้วยความสบาย เต็มไปด้วยความละเอียดอ่อน
เมื่อรู้สึกว่าจิตเราเต็มไปด้วยพลังบุญแล้ว ต่อไปให้ตั้งจิตอธิษฐานให้กับตนเอง ด้วยอานุภาพแห่ง บุญนี้ จงมาเป็นตบะ เป็นพลวะ เป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้าจงเป็นผู้มีสติ มีสมาธิ มีปัญญา มีดวงตาเห็นธรรม และเข้าถึงธรรมโดยฉับพลัน
จากนั้น ให้แผ่จิตที่เป็นบุญอันนี้ให้กว้างออกไปอีก ให้กว้างออกไป ไม่มีขอบเขตไม่มีประมาณ ให้กว้างเท่าจักรวาล แล้วตั้งจิตอธิษฐาน แผ่บุญกุศลอันนี้ ให้กับผู้มีพระคุณทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ลูกหลาน ญาติสนิทมิตรสหาย เพื่อนร่วมโลก เกิด แก่ เจ็บ ตาย เทวดาทั้งหลาย ทั้งที่อยู่ ณ


































































































   54   55   56   57   58