Page 55 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การปรับอินทรีย์
P. 55
307
เวลาเพิ่มพลังแบบนี้ เพิ่มความตื่นตัว เพิ่มครั้งหนึ่ง ก็เพิ่มนิ่งนิดหนึ่ง เพิ่มความตื่นตัวนิดหนึ่งก็อยู่แค่นี้ มี เพิ่มทีละนิด ๆ ถ้าเพิ่มได้ทีละนิด อย่าเพิ่งไปใช้งานนะ อย่าเพิ่งใช้...รีบใช้ ให้เพิ่มความตื่นตัว
ทาอย่างไร ให้ความตื่นตัว...ตื่นเต็มที่ ความตื่นตัวตื่นเต็มที่ก็คือ พอนิ่งนิดหนึ่งความตื่นตัวมากขึ้น เขา้ ไปรคู้ วามรสู้ กึ ทตี่ นื่ ขนึ้ แลว้ ดจู ติ ทกี่ า ลงั ตนื่ ขนึ้ แลว้ จติ ทตี่ นื่ ขนึ้ แลว้ ทา จติ ทตี่ นื่ ขนึ้ แลว้ เราเคยขยายความ รู้สึก ขยายจิตให้กว้างได้ ให้ขยายจิตที่ตื่นแล้ว ให้กว้างกว่าตัว ค่อย ๆ กว้างกว่าตัว กว้างกว่าตัว แล้วให้จิต ที่ตื่นแล้ว คลุมทั้งตัวห่อหุ้มตัว คลุมทั้งตัวห่อหุ้มตัว ลองดูว่ารูปเราตื่นขึ้นไหมนะ ให้เพิ่มความนิ่งอีก แล้ว ตัวก็ยืดขึ้นไหม ตั้งมั่นขึ้นไหม
ตัวยืดขึ้นหรือเปล่า อันนี้ตัวก็จะตื่น จิตตื่น ตัวก็ยืด ตัวก็ตั้งตรงขึ้น ตรงนี้กลายเป็นว่า จิตตื่นตัวขึ้น จติ กต็ นื่ ตวั กต็ นื่ ไมใ่ ชจ่ ติ ตนื่ แลว้ ตวั หลบั นะ คนละอยา่ ง กลายเปน็ วา่ ไมต่ นื่ ตวั จติ ตนื่ อยา่ งเดยี ว จติ ตนื่ ตวั กต็ นื่ ขนึ้ ตงั้ ตรงขนึ้ ลองดวู า่ เวลาจติ ตนื่ ตวั ขนึ้ สงั เกตนดิ หนงึ่ นะ เวลาจติ ตนื่ ตวั ขนึ้ ขา้ งหนา้ นนี่ ะ มดื หรอื สวา่ ง สว่างขึ้นมา...เขาสว่าง นั่นคือ ลักษณะของสติของจิตเราอย่างหนึ่ง ที่สามารถบอกได้ ที่เรารู้สึกได้ทันทีนะ
เพราะฉะนนั้ เวลาเราหลบั มดื หรอื สวา่ ง ไมร่ .ู้ ..หลบั ไปแลว้ ใชไ่ หม แตก่ อ่ นหลบั นจี้ ะรเู้ ลย เรมิ่ สลวั ๆ ค่อย ๆ มืด ๆ ๆ ๆ แล้วก็ฟึ๊บหายไปจริง ๆ แต่เวลามืดจริง ๆ นี่นะ เวลามืด จริง ๆ แล้ว สติดีมีไหม...มี สติดีแต่มืด ทาไมเขามืดแล้วใส ที่มืดเพราะอะไร เพราะสงบ ๆ จิตมันเงียบ ข้างหน้ามืด แต่รู้สึกใส จิตสงบ ตั้งมั่นมากเลย มีพลัง กลายเป็นว่า นี่คือจิตดีเหมือนกัน สติก็ดี สมาธิก็ดี ไม่ใช่สติอ่อน ถ้าเป็นอย่างนั้นเรา ก็รู้ความสงบนะ ดูจิตที่สงบใสนั้นต่อไป ไม่ต้องห่วงความมืด ความสว่าง เพราะความมืดความสว่าง เป็น สีสันอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้น
เพราะฉะนั้น เวลาเราสังเกตที่บอกว่า ดูจิตสิ เวลาเขาสว่างนวล อีกจุดหนึ่งเวลามีความสว่างนวล ๆ ขึ้นมาข้างหน้า เราบอกข้างหน้ามันสว่าง ๆ ขาว ๆ นวล ๆ ถามว่าจิตเป็นอย่างไร จิตเฉย ๆ ...แน่ใจนะ บาง ครั้งนะ ลองดูสิว่า ทาไมจิตตื่นตัวข้างหน้าสว่าง เวลาเขาเป็นนวล ๆ นี่นะจิตเฉย ๆ เป็นเพราะว่าเราไปดูแสง นวลนั้นเฉย ๆ อีกอย่างหนึ่งก็คือว่า ไม่รู้สึกยินดียินร้ายกับแสงนวล ๆ แค่นั้นเอง ถามว่าแล้วตัวจิตจริง ๆ ข้างในลึก ๆ รู้สึกอย่างไร เฉยไหมหรือนุ่มนวล มีความนุ่มนวลอยู่ภายใน อันนี้สังเกตดู
นคี่ อื การดจู ติ ในจติ จะไดเ้ หน็ ชดั วา่ จติ ประเภทนเี้ กดิ ขนึ้ มา ขา้ งหนา้ เปน็ อยา่ งไร แลว้ เราจะเพมิ่ พลงั ตรงนี้ได้อย่างไร เข้าไปดูจิตที่นุ่มนวลเปลี่ยนแปลงไป บางครั้ง บางครั้งพอเข้าไปดูจิตที่นุ่มนวล ยิ่งจิตนุ่ม นวลเปลี่ยนแปลงไป กว้างขึ้น ยิ่งเข้าไปข้างหน้าที่สว่างนวล ก็เริ่มใสขึ้น ๆ กลายเป็น ทาไมจิตใสขึ้น อันนี้ ลองฝึกเติมดู เพิ่มพลังให้ตนเองนะ เพิ่มพลังแล้วก็ลองดูว่า สภาวะข้างหน้า ต่อจากนี้เป็นอย่างไร
ทีนี้ ถ้ามุ่งไปดูสภาพจิต ดูสภาวะที่เกิดขึ้น อย่างเช่น เรามุ่งเข้าไปในความสงบ แต่ไม่ใช่ไปกระทุ้งทีเดียว พอมุ่งเข้าไปในความสงบปื๊บ จิตที่มุ่งนี่นะ จิตที่มุ่งเขามีความนิ่ง มีความตั้งมั่นในตัว พอมุ่งเข้าไปในความ สงบ เข้าไปลึก ๆ แล้ว รู้สึกเป็นอย่างไร เข้าไปในความสงบ แล้วรู้สึกสงบมากขึ้นไหม มุ่งเข้าไปอีก เข้าไป ใหม่ เขา้ ไปขา้ งในนนั้ อกี ถา้ รสู้ กึ มพี ลงั มากขนึ้ คา วา่ พลงั นนี่ ะ พอโยคพี ดู อาจารยก์ .็ ..พลงั อะไรนะ พลงั อะไร