Page 35 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การน้อมพลังบุญเพื่อการอธิฐานจิต
P. 35
841
เพราะฉะนั้น การที่เราจะมีที่พึ่ง อย่างที่พึ่งอันเกษมนี่นะ ที่พึ่งที่ดีที่สุด ก็คือพึ่งความจริงตรงนี้นะ ที่พึ่งอันเกษม คือพึ่งสัจธรรมความจริง ของที่มีความเปลี่ยนแปลง ความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ความ เป็นจริงตรงนี้แหละ การยอมรับความจริงแล้วจิตเราจะมั่นคง เหมือนมีความหนักแน่น มีความมั่นคง มี ความมั่นใจในตัวเอง ตรงนี้แหละที่เป็นตัวสาคัญ เพราะธรรมะที่เราปฏิบัติ ที่บอกว่าให้ปฏิบัติ การแยกรูป นาม ทาจิตให้ว่าง ให้กว้าง ไม่มีตัวตน รู้อาการพระไตรลักษณ์
ที่ถามเมื่อคืนว่า การที่จะปฏิบัติเพื่อตัดวัฏฏะสงสาร ตัดปฏิจจสมุปบาท ทาอย่างไร นี่แหละที่กาลัง ทา อยนู่ ี้ ทชี่ ที้ างไป ทจี่ ะรอู้ าการเกดิ ดบั ของรปู นาม อยา่ งทบี่ อกเมอื่ กนี้ วี้ า่ ทา ไมเราตอ้ งยอ้ นกลบั มาพจิ ารณา รูปนาม ขันธ์ห้าอันนี้ เพราะรูปนาม ขันธ์ห้านี่ เป็นสิ่งที่คนเรายึดมากที่สุด เวทนาขันธ์ มีความทุกข์ขึ้นมา... ฉันทุกข์ โดยเฉพาะเวลาทุกข์นี่...ฉันทั้งนั้นแหละ ทุกข์...ถ้าไม่มีฉันก็ไม่ทุกข์หรอกนะ บางคนว่าไม่หรอก ฉันปล่อยวางหมดแล้ว ฉันไม่ทุกข์หรอก
ถ้าเป็นเรื่องของตัวเองไม่ทุกข์ แต่ทุกข์กับของลูกหลานมัน ใช่ไหม ลูกหลานไม่ใช่ของฉันหรอก แต่ทุกข์กับมัน จริง ๆ แล้ว ถ้าไม่ใช่ของฉันก็คงไม่ทุกข์ เหมือนร่างกาย รูปตัวเราเอง เราปล่อยวางแล้วเรา ก็สงบ เรื่องส่วนตัวเราก็วางได้ แต่สิ่งที่ต้องรับผิดชอบล่ะ เราก็ต้องทาหน้าที่ไป ๆ นี่แหละ การที่ย้อนกลับ มาพิจารณาอาการพระไตรลักษณ์ มองรูปนาม เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ นี่นะที่บอกเป็นชีวิตของเรา แต่มันเป็นแก่น เป็นสัจธรรม เป็นของละเอียด
ถ้าเข้าใจตรงนี้ให้ชัด ดูชัด ๆ แล้วลองพิจารณาย้อนกลับไป เขาเรียกว่า พิจารณาย้อนกลับไปสู่ บัญญัติ ย้อนกลับไปสู่เรื่องราวที่เกิดรอบตัวเราทั้งหมด มีอะไรบ้างที่พ้นจากเรื่องของขันธ์ห้า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ มีอะไรที่ไม่เกี่ยวกับตรงนี้เลยนะ ลองหาดูนะ ถ้าหาเจอก็ถือว่าเก่งมากเลยนะ พระพุทธเจ้าตรัสทั้งหมดคืออยู่ตรงนี้ เพราะฉะนั้น การที่ย่อลงมาตรงนี้ เวทนาทั้งสุข ทุกข์ สบาย เฉย ๆ ตรงนั้นก็คือในชีวิตประจาวัน ได้เจอสิ่งที่ชอบ ไม่ชอบ เดี๋ยวสุข เดี๋ยวทุกข์ เดี๋ยวก็เฉย ๆ ก็เป็นเวทนา ทีนี้ กลายเป็นเวทนา เป็นเรื่องปกติ เห็นไหม ทั้งทางกายและทางจิต มันก็วนอยู่ตรงนี้ ๆ เอง
สัญญาคือเรื่องราวในอดีต ดีไม่ดี ๆ ก็เป็นสัญญา จาได้ ระลึกได้ เราก็คิดต่อปรุงแต่งต่อ ก็เป็น ตัวสังขาร กลายเป็นนี่นะ เป็นวัฏจักรของชีวิตเรา เพราะฉะนั้น ลองดูพิจารณาดูว่า สิ่งที่เราย้อนกลับมาดู ตรงนนี้ ะ ดรู ปู นามภายใน เพราะเปน็ ของทลี่ ะเอยี ดและรไู้ ดง้ า่ ย ละเอยี ดและดไู ดง้ า่ ยดว้ ยนะ เพราะถา้ รเู้ รอื่ ง รอบนอกนี่นะ ความคิดเรา ถ้าเรื่องนั้นฉันรับได้ เรื่องนี้ฉันรับไม่ได้ เรื่องนี้ดี ฉันจะเอาไว้ เรื่องนี้ไม่ดีจะเอา ออกไป เราก็กลายเป็นเลือกเรื่อง เป็นเรื่อง ๆ แต่รวมแล้ว คือตัวสัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ แต่เรามารู้ตรงนี้ ๆ คือ สรุปรวบยอดมา เพื่อที่จะพิจารณารู้การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
เพราะฉะนนั้ จงึ บอกวา่ การเหน็ การเกดิ ขนึ้ ตงั้ อยู่ ดบั ไป ของความคดิ ของตวั สญั ญา ตวั สงั ขารนนี่ ะ พอไปอยู่ในชีวิตประจาวันนี่นะ พอเราเริ่มปรุงแต่งมาก ๆ เริ่ม...จิตเขาจะเริ่มแบบรู้สึกว่า ถ้าปรุงแต่งเกินไป เริ่มเป็นภาระแล้วนะ ไม่ดีแล้วนะ ตัดนะ เขาก็จะสั่งตัด คือพยายามที่จะดับไป ไม่เอาแล้ว ตรงนี้แหละ ปัญญาจะชัดขึ้น เพราะการที่กาหนดรู้อาการเกิดดับภายในนี่นะ รู้ภายในแล้วไม่ยึดติดกับสังขารขันธ์ แม้