Page 37 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การน้อมพลังบุญเพื่อการอธิฐานจิต
P. 37
843
ด้วยความต้ังมั่นของจิต เราสามารถเห็นอาการเกิดดับของรูปนามได้เสมอ เพราะเราเห็นอะไร เห็น จิตอยู่ตรงน้ันน่ีนะ ถ้าอาการน้ันดับชัด จิตก็ดับ ดับชัดด้วยเช่นกัน เพราะฉะน้ันเสียงนก เห็นนกบินว๊ึบ ๆ ๆ มาจับป๊ึบน่ีนะ จิตตามป๊ึบ ๆ ๆ พอจับปึ๊บ ดับฟ่ึบไป โล่งข้ึน จิตโล่งข้ึน ดับฟ๊ึบ จิตสงบขึ้น น่ีคือการอาศัย อารมณ์ภายนอก แต่เราต้องรู้วิธีกาหนด ไม่ใช่น่ังปล่อยไปเพลิน เอ๊ะ!สวยจังเลย แล้วผ่านไป มีความรู้สึก แล้วผ่านไป แบบน้ันก็ไม่มีสติ สติไม่ดี ถ้าสังเกตแบบน้ีนะ ถามว่ากิเลสเกิดไหม...ไม่เกิด รู้อาการเกิดดับ มีแต่สติ สมาธิ ปัญญาเกิดข้ึนมา เห็นท้ังอารมณ์ภายในและภายนอก
มีโยคีบางคนรู้สึกว่า พอมอง ๆ ไปข้างหน้า เคยมองเห็นเพ่ือน พอมองไปสักพักคนข้างหน้า หาย ว๊ึบไป เกิดอะไรข้ึน พอถอยกลับมา เอ้า!ปรากฏแว็บข้ึนมา พอมองอีก ฟ่ึบไปอีก ย่ิงดูย่ิงหาย น่ีคือการเห็น ไปดู...เขาเรียกว่าจับถูกจิต เห็นความรู้สึกหรือจิตดับ รูปก็ดับ จิตที่ทาหน้าที่รู้ จิตที่ทาหน้าท่ีเห็น...ดับ ภาพ นนั้ กด็ บั เขาเรยี กจบั ถกู ความรสู้ กึ นคี่ อื เปน็ ...สตติ อ้ งดมี าก ๆ ถงึ จะเหน็ อาการดบั แบบนี้ ถา้ สตไิ มด่ ี ไมเ่ หน็ หรอก มีแต่หลับ ๆ อย่างเดียว แล้ว เอ้า!อยู่ ๆ เราก็วื๊บไป อ๋อ!ตื่นมาเห็นแล้ว เมื่อกี้นี้เพลิน ๆ ๆ เอ้า!วึ๊บ ไปก็เห็นอีก เพราะฉะนั้นนี่ การเจริญสติน่ีนะ จึงบอกว่าเจตนาจึงเป็นตัวสาคัญ
เจตนาในการปฏิบัตินี่นะ เจตนาคือตัวกรรม แล้วเราก็บอกว่ามาเข้ากรรมฐาน มาเจริญวิปัสสนา กรรมฐาน แต่บอกว่า...จะมาไม่ทาอะไรหรอก อยู่แบบสบาย ๆ เสียเวลานะ แต่ว่าก็ได้พักผ่อน...ดีแล้วนะ ได้พักผ่อนก็ยังดี แต่การที่เราทาแบบนี้นะ เหมือนเราให้สัจจะกับตัวเอง เพราะฉะนั้นการอธิษฐานจิตนี่นะ การอธษิ ฐานจติ จะเปน็ สงิ่ สาคญั อยา่ งหนงึ่ กค็ อื วา่ การทเี่ ราอธษิ ฐานจติ อนั นนี้ ะ เขาเรยี กใหส้ ญั ญากบั ตวั เอง เราจะรู้เลยว่าพอตั้งจิตอธิษฐานปึ๊บ สติจะคอยเตือนตัวเองเป็นระยะ ๆ เมื่อไหร่ที่เราเผลอ เราไม่ใส่ใจ สิ่งที่ เราตั้งจิตนี่นะ เดี๋ยวก็ผุดขึ้นมาปึ๊บ อ่า! จะเผลอแล้วนะ ทานะ...เค้าจะเตือนเราซ้า ๆ ๆ อยู่เรื่อย ๆ จนกว่า เราไม่ได้ใส่ใจใยดีกับเขาจริง ๆ นะ
พอเหน็ เราไมใ่ หค้ วามสา คญั กบั เขาจรงิ ๆ เขาจะเรมิ่ คอ่ ย ๆ หายไป ๆ แลว้ กล็ มื กลายเปน็ ลมื เลยวา่ เป้าหมายของตัวเองคืออะไร ระลึกไม่ได้แล้ว ก็ทาไม่ได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ระลึกถึงเขา เขาก็จะมาทันที เพราะ ฉะนั้น การตั้งจิตอธิษฐานนี่นะ เป็นอธิษฐานบารมีอย่างหนึ่ง ให้ตั้งจิต แล้วก็มามีเป้าหมาย แล้วก็ทา เมื่อ ไหร่ที่เขาเตือน ให้สารวจ ให้ทาตาม เมื่อไหร่ที่เขาเตือน ให้สารวจ แล้วทาตาม บางคนจนรู้สึกว่าเหมือนมี ใครคอยเตือนเป็นระยะ ๆ พอจะเดิน อะไร...เหมือนมีคนมาสะกิดเตือนนะ อย่างนั้นอย่างนี้นะ
จรงิ ๆแลว้ นะ นนั่ แหละคอื สตติ วั เอง ความรสู้ กึ ตวั เอง เหมอื นทเี่ ราตงั้ จติ เอาไวว้ า่ ตอ้ งระวงั สงิ่ นี้ ไป แล้ว คอยเตือน ๆ ๆ อยู่เรื่อย ๆ เหมือนมีใครคอยเตือนอยู่ เห็นไหม นั่นไง แต่เราก็รู้สึกว่า เอ๊ะ!ใคร เหมือน มใี ครสกั คนคอยเตอื นเราตลอดเวลา อนั นนั้ ตรงนแี้ หละ อานสิ งสจ์ ะเกดิ ขนึ้ ประโยชนท์ เี่ กดิ ขนึ้ เพราะฉะนนั้ ถามว่าสาคัญไหม สาคัญมาก ๆ เลย การที่เรา...ตอนนี้ ถ้าแค่เราบอกว่า ต่อไปนี้ฉันจะมีสติให้มาก ในการ ทาอะไร ตั้งจิตแบบนี้ก็ได้ จะมีสติให้มาก ในการจะทาอะไรก็ตาม แล้วก็ไม่ต้องไปกังวลด้วยนะ
ตงั้ จติ แลว้ อยา่ เพงิ่ แบก เดยี๋ วเหนอื่ ย ตงั้ จติ แลว้ กพ็ อใจทจ่ี ะทา ตาม พอใจนเี่ ขาเรยี กวา่ ตวั ฉนั ทะนะ ถ้ามีความพอใจ เราจะไม่อึดอัด แต่ถ้าไม่พอใจเมื่อไหร่ จะอึดอัดเมื่อนั้น พอใจที่จะทา จะมีความเพียรนะ