Page 52 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การน้อมพลังบุญเพื่อการอธิฐานจิต
P. 52
858
หรือแม้แต่ ช่วงระยะเวลาที่เรากาลังนั่งอยู่นี้ กาลังนั่งอยู่นี้ ตั้งจิตอธิษฐาน ทาจิตของเราให้มีกาลัง ทา จติ ของตนใหม้ พี ลงั มคี วามตงั้ มนั่ มคี วามผอ่ งใส แลว้ ตงั้ จติ อธษิ ฐาน ขอใหเ้ หน็ สภาวะทไี่ มเ่ หน็ หรอื ทขี่ า้ มไป หรือที่เราสังเกตไม่ละเอียดไม่แยบคาย ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ขอให้มีปัญญา และเข้าใจในธรรม สภาวธรรมที่กาลังปรากฏ ให้เข้าใจในธรรม หรือเข้าใจในสภาวธรรมที่กาลังปรากฏนั้น ให้ชัดเจนแจ่มแจ้ง ยิ่งขึ้นไป
สภาวธรรมทกี่ า ลงั ปรากฏ ไมว่ า่ จะเปน็ อาการเกดิ ดบั ไมว่ า่ จะเปน็ อาการของเวทนา ไมว่ า่ จะเปน็ อาการ ของความคิด ไม่ว่าจะเป็นสภาพจิต ไม่ว่าจะเป็นอาการทางกาย อาการของรูปก็ตาม เราจะเข้าใจอย่างไร พิจารณาธรรมให้เข้าใจในธรรมข้อไหน ธรรมเกี่ยวกับอะไร แม้คาว่า ความเข้าใจในอาการพระไตรลักษณ์ หรือให้เห็นชัด ๆ ถึงอาการพระไตรลักษณ์ ทาไมถึงเรียกว่าอาการพระไตรลักษณ์ อาการเกิดดับ ถึงความ เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
หรอื ใหพ้ จิ ารณาตงั้ จติ วา่ อยากรวู้ า่ อาการดบั อาการเกดิ ดบั ของรปู นามแตล่ ะขณะ แตล่ ะขณะทเี่ กดิ ขึ้นนั้น จะตัดกิเลสได้อย่างไร จะตัดอกุศลได้อย่างไร เพราะฉะนั้น เมื่อมีสภาวธรรมเกิดขึ้น มีอาการเกิด ดับของอารมณ์ใดอารมณห์นึ่งเกิดขึ้นก็เข้าไปรใู้หช้ดัวา่เวลาอาการของรูปนามนนั้ดบัแตล่ะขณะทเี่หน็ชดั อย่างเด็ดขาด อย่างแจ่มแจ้งนี่นะ ลองดูว่า เห็นอาการเกิดดับอย่างเด็ดขาดในแต่ละขณะ ๆ เขาบอกอะไร กับเรา ทาให้เห็นชัดมากขึ้นไหม ว่าสามารถตัดกิเลส ละความสงสัยของเราได้ไหม ละอกุศลได้ไหม อันนี้ก็ คืออย่างหนึ่ง
เราสามารถตั้งจิตที่จะเรียนรู้ ที่จะเข้าไปดูสภาวธรรม ที่กาลังปรากฏอยู่เฉพาะหน้าให้ชัดเจน หรือ ถ้าเราอยากพิจารณาดูว่าสภาพจิต จิตอย่างไร ที่เรียกว่าเป็นจิตที่สะอาดที่ผ่องใส จิตขณะนี้จิตเป็นอย่างไร มีความสงบ ๆ แค่ไหน สงบแล้วนี่นะ เป็นความสงบที่ไม่มีตัวตนนั้นเป็นอย่างไร จิตที่มีความผ่องใสที่เป็น อย่างนี้ มีความเป็นตัวตนเป็นเราไหม หรือจิตที่ใสอันนี้ ถ้าจิตเราใสแบบนี้ ลองดูว่าดีอย่างไร ที่เราเคยคิด ว่า จิตใสอันนี้ เขาเป็นจิตที่ใสชั่วขณะหนึ่ง ต่อไปจะตัดกิเลส ตัดความเคยชินของเราได้ไหม
ก็ลองเข้าไปค้นหาพิจารณาดูว่า สิ่งที่เรากลัว สิ่งที่เราคิดนี่นะ เป็นแค่ความคิดความเข้าใจ หรือเป็น สิ่งที่เขาเกิดขึ้น ที่มีอยู่ในจิตใจ ณ ขณะนี้ บางทีก็เป็นแค่ความกังวล ความไม่มั่นใจ เพราะเห็นไม่ชัด การที่ เราไม่ได้เข้าไปรู้ให้ชัด ก็ทาให้ไม่มั่นใจไม่มั่นคง ทาให้ไม่เข้าใจในธรรมะอันนั้น เพราะฉะนั้น การที่เราตั้งจิต เพื่อที่จะพัฒนาปัญญา เพื่อที่จะได้เข้าใจในธรรม พอตั้งจิตแล้วก็เข้าไปพิจารณา เข้าไปพิจารณาสังเกตดู
สภาวธรรมที่เกิดขึ้นที่พูดถึง คือสภาพจิตของเราเอง จิตใจของเรา ใช้คาว่าเรา แต่ไม่ได้บอกว่าเป็น เรา ก็คือเป็นสภาพจิตที่ไม่มีตัวตน ยิ่งไม่มีตัวตน ทาไม...พิจารณาดูว่า เอ๊ะ!ทาไมพระพุทธเจ้าถึงตรัสว่า รูปนามนี้ไม่มีตัวตน ไม่มีเรียกว่าเป็นตัวตน เป็นคนเป็นเราเป็นเขา แล้วทาไมการเห็นอย่างนี้ ความทุกข์ถึง จะดับไปได้ ทาไมการรู้ตรงนี้นะ ถึงเรียกว่าความทุกข์ถึงจะดับไปได้ ก็พิจารณาด้วยตนเอง ว่าเมื่อเห็นแบบ นั้นจริง ๆ ความทุกข์เกิดได้ไหม