Page 54 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การน้อมพลังบุญเพื่อการอธิฐานจิต
P. 54
860
ตรงนี้แหละ เขาเรียกว่าธัมมวิจยะ ธัมมวิจยะการสอดส่องธรรม ธัมมวิจยะ คือวิธีการที่จะทาให้เรา คลายความสงสัย ทาให้ปัญญาเกิดขึ้น การแก้ปัญหา แก้ความสงสัยของตน รู้ให้ชัด รู้ให้ชัด เพราะฉะนั้น ลองดูว่า ถ้าตั้งจิตแบบนี้และใส่ใจแบบนี้ สภาวธรรมต่าง ๆ ที่เคยไม่ชัด ที่เรารู้สึกว่าเราข้ามไป ไม่แยบคาย ไมล่ ะเอยี ด ลองสงั เกตใหแ้ ยบคายใหล้ ะเอยี ดขนึ้ แลว้ ลองดวู า่ ความชดั เจนมมี ากขนึ้ หรอื เปลา่ เพราะฉะนนั้ คาอธิษฐานอันนี้ส่งผลแบบไหน ปัญญา...มีความเข้าใจในธรรมะง่ายขึ้นไหม
ที่สาคัญก็คือว่า คาถามในการปฏิบัติธรรมของเรา เหมือนกับคาถามเราอย่างหนึ่ง เราอยากปฏิบัติ อยากเห็นอีกอย่างหนึ่ง อยากรู้อย่างหนึ่ง แต่ทาไม่ตรงกับสิ่งที่อยากรู้ ไม่ได้สนใจในสิ่งที่อยากรู้ คาถามกับ คาตอบเลยไม่ตรงกัน เราปฏิบัติธรรมอยากดับทุกข์ แต่ก็อยากเห็นอย่างอื่น อยากให้เป็นอย่างอื่น ไม่ได้ สนใจเรื่องความดับทุกข์ ของการกระทาของจิตที่เกิดขึ้นว่า ดับทุกข์หรือเปล่า ทุกข์ลดลงไหม สติดีขึ้นหรือ เปล่า เราอยากละกิเลส แต่ไม่ได้สนใจว่า จิตเรามีความสะอาดขึ้น ผ่องใสขึ้นไหม
กลัวแต่...กลายเป็นความกลัวความกังวลไป ความกังวลความกลัวก็เป็นกิเลสตัวหนึ่ง เป็นกิเลส ตัวหนึ่ง เขาเรียกว่าอยู่ในกลุ่มของตัวโทสะ ความกลัว กลัว ๆ มากแค่ไหน มากแค่ไหน กลัวแล้ว...มาก น้อยก็กลัว เพราะฉะนั้นต้องรู้ให้ชัด เข้าไปดูให้ดี อ่ะ!ต่อไปเดี๋ยวอาจารย์จะไม่ใช้เสียง ให้เราพิจารณา สภาวธรรมไป ใช้เวลาอีกนิดหนึ่ง จากนั้นจะแผ่เมตตากันเป็นลาดับถัดไป
ลองเขา้ ไปสา รวจตรวจสอบ สภาวธรรมทกี่ า ลงั ปรากฏอยเู่ ฉพาะหนา้ นใี้ หช้ ดั แลว้ การอธษิ ฐานจติ ของ เรา จะเปน็ คา ตอบ คน้ หาคา ตอบดว้ ยตวั เอง ถา้ เราไดย้ นิ ถา้ เราไดศ้ กึ ษาไดฟ้ งั มา เราจะเหน็ วา่ คาอธษิ ฐานนนั้ สาคัญ การตั้งจิตอธิษฐานในการทาอะไรก็ตาม ก็คือการมีความมุ่งมั่น ตั้งจิตแล้วทาให้จิตเรามีความมุ่งมั่น แน่วแน่ หรือมีอุดมการณ์ มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการกระทาของเรา ดังนั้น จะทาให้ความเพียรเกิดขึ้น ความเพียรเกิดขึ้น แล้วจะส่งผลให้คาอธิษฐานนั้นสาเร็จได้ ก็อาศัยการตั้งจิตเพื่อที่จะทา ขอให้ตั้งใจกัน...
ตอ่ ไปเราจะแผเ่ มตตากนั กอ่ นแผเ่ มตตาทกุ ครงั้ ขอใหน้ อ้ มระลกึ นกึ ถงึ บญุ กศุ ลทเี่ ราไดท้ า นอ้ มเขา้ มาใส่ตัว น้อมเข้ามาใส่ใจ ทาให้ใจเราเต็มไปด้วยพลังแห่งบุญ ให้เต็มทั้งตัว ให้ล้นออกจากตัว ให้กว้างออก ไป เมื่อรู้สึกว่าจิตเราเต็มไปด้วยพลังบุญแล้ว ให้ตั้งจิตอธิษฐานให้กับตนเอง ด้วยอานุภาพแห่งบุญนี้ จงมา เป็นตบะ เป็นพลวะ เป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้าจงเป็นผู้มีสติ มีสมาธิ มีปัญญา มีดวงตาเห็นธรรม และเข้าถึง ธรรมโดยฉับพลัน
จากนั้น ให้แผ่จิตที่เป็นบุญอันนี้ให้กว้างออกไปอีก ให้กว้างออกไป ไม่มีขอบเขตไม่มีประมาณ ให้กว้างเท่าจักรวาล แล้วตั้งจิตอธิษฐาน แผ่บุญกุศลอันนี้ให้กับผู้มีพระคุณทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ลูกหลาน ญาติสนิทมิตรสหาย เพื่อนร่วมโลก เกิด แก่ เจ็บ ตาย เทวดาทั้งหลาย ทั้งที่อยู่ ณ สถานที่แห่งนี้และที่อื่น ๆ จงรับรู้ถึงบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้แผ่ไปแล้วนี้ เมื่อรับรู้แล้วก็ขอให้อนุโมทนา เมื่อ อนุโมทนาแล้ว ถ้ามีทุกข์ก็ขอให้พ้นจากทุกข์ ถ้ามีสุขก็ขอให้สุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป ถ้ามีเวรมีภัยต่อกัน ก็ขอให้ อโหสิกรรมซึ่งกันและกัน เพื่อความเจริญความผาสุกในชีวิตตลอดไป