Page 15 - มรรควิถี
P. 15

แสดงพระธรรมเทศนา เนอ่ื งในวนั เขา พรรษา พ.ศ.๒๕๔๑
ขอนอบนอมแดองคสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจา พรอมทั้งพระธรรม และพระอริยสงฆ
ขอแสดงความเคารพตอทานแมครูผูประสาทวิชามา ณ โอกาสน้ีดวย ขอความเจริญในธรรมจงมีแกญาติโยมทุก ๆ คน
การปฏิบัติธรรมนั้น เราตองอาศัยความศรัทธา ศรัทธาตองประกอบ ดวยปญญา ศรัทธามากปญญานอย การปฏิบัติก็ลาชา เพราะถาเราศรัทธา แลวไมมีปญญา ก็ไมรูวาสิ่งท่ีเราศรัทธาน้ันถูกทางหรือไม เปนไปเพื่อละ กิเลสหรือเปลา ? อันน้ีเราตองมีปญญาพิจารณา ศรัทธาตองประกอบดวย ปญญา ยิ่งมีมากยิ่งดี
ศรัทธาเปนกําลังไดอยางไร ? จะเห็นวาเม่ือเรามีศรัทธา จิตของเรา จะมีกําลังผองใสขึ้นมาทันที ความผองใสเปนเหตุใหสติ สมาธิ ปญญา เกิดขึ้น จิตตั้งม่ันในฝายกุศล ใหเราเอากําลังตัวนี้ไปเจริญสติ บางคร้ังการ ปฏิบัติติดขัดหาวิธีไมเจอ หาทางออกไมได เม่ือเรานึกถึงครูบาอาจารย จะปรากฏเปนมโนภาพ หรือนิมิตขึ้นมาสอนมาชี้แนะเรา ใหเราปฏิบัติได อยางถูกตอง น่ันเปนเพราะดวยอํานาจของสติ ที่เกิดจากกําลังความศรัทธา ในขณะนั้นมีมาก
บางครั้งเราปฏิบัติอยูดี ๆ เกิดความสงสัยขึ้นมา แลวก็คิดไปเรื่อย ปรุงแตงไปเรื่อย ขณะปรุงแตงสติจะออน เม่ือสติออน กําลังก็จะถูกตัด ไมใหกลับสูสภาพเดิม กวาจะเขาสูสภาพเดิมหรือใหมีกําลังเทาเดิมได
1


































































































   13   14   15   16   17