Page 153 - มรรควิถี
P. 153

ใจเราไปใหกวางกวาเสียง กวางกวาตัวเขา เสียงจะอยูขางนอก เสียงจะ อยูไกล ๆ เราก็จะฟงไดแบบสบาย ๆ คือฟงดวยความสงบ และไมมีการ รูสึกอึดอัด นั่นคือเราดับทุกขของเราได แยกเปนคนละสวน เมื่อดับทุกข ไดแลว เมื่อเราสงความสงบไปที่ตัวคนพูด เขาก็จะคอย ๆ สงบลงดวย เขาไดรับบรรยากาศของความสงบ แสดงวาเมื่อเขาสงบลง ความทุกขของ เขาก็ลดนอยลง เนี่ยวิธีชวยอยางหนึ่ง โดยไมตองไปขึ้นเสียง หรือใช เสียงนะ
วิธีแกวิธีดับความทุกข เมื่อรูวิธีแลวเนี่ยใหใชบอย ๆ ดับบอย ๆ ทําบอย ๆ รูวิธีดับทุกข ทําบอย ๆ ใชบอย ๆ จะเกิดความชํานาญ จะเกิด ความชํานาญหรือวองไว เมื่อมีอะไรเกิดขึ้น มีอารมณเขามากระทบ ก็จะดับ ไดเร็วขึ้น และเมื่อใชบอย ๆ เราเห็นจิตตัวเองบอย ๆ เมื่อมีอารมณ อกุศล หรือสิ่งที่ไมดีมากระทบจิตเรา เราก็จะรูไดไวขึ้น เมื่อรูไดไวขึ้น เราก็จะดับไวขึ้น เมื่อดับไวขึ้น อารมณที่ไมดีก็จะสั่งสมในจิตเรานอยลง หรือไมสั่งสมในจิตเราเลย เมื่อเห็นวาเกิดขึ้นแลวก็ดับไป เกิดขึ้นแลว หมดไป ทุกครั้งที่เห็นวาหมด ที่เห็นดับไป ใจเราก็จะอิสระ ใจเราก็จะ โลง โปรง จะเบา ตั้งอยูบนความเบา ตั้งอยูบนความวาง
นั่นแหละทางที่ทําใหเราเปนสุขได หรือแนวทางที่จะพาเราไปสู มรรค ผล นิพพาน ก็คือการกําหนดรูอาการเกิดดับของรูปนาม ในขณะ ที่เปนปจจุบันจริง ๆ ในขณะนั้น ขณะที่เห็น ขณะที่ไดยิน ขณะที่คิด ขณะ ที่พูด ขณะที่กระทํา เมื่อไหรที่เรามีสติกําหนดรูอยูอยางนี้บอย ๆ อกุศล จะเกิดยากนะ ปญญาจะเปนตัวคุมครอง หรือเปนตัวดูแลอาการตาง ๆ ของเรา ไมวาจะเกิดขึ้นทางกาย หรือใจก็ตาม ถายอลงงาย ๆ ก็คือ เหลือ สองอยางที่เราตองดูแล และควบคุมไดงาย ไมใหอกุศลตาง ๆ เกิด ก็คือ เรื่องกายกับใจ ไมใหอกุศลเกิดทางกาย ไมใหอกุศลเกิดทางใจ เมื่อเรา คุมสองอยางได อะไรก็ดีขึ้น จิตเราก็จะดีขึ้น
139


































































































   151   152   153   154   155