Page 181 - มรรควิถี
P. 181

ไมเกิดขึ้นกับเรา เพราะจิตมันแยกออกมาจากรูป การวนเวียนของรูป เปนคนละสวนกับรูป ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ภพชาติของรูปนามนั้นมีอยู แตวาเมื่อไมทุกขกับเขา เหมือน เราอยูคนละสวนแลว เหมือนนักปฏิบัติเรารับรูอะไรอยูคนละสวน เมื่อ อารมณนั้นหมุนไปยังไงก็ตาม ธรรมชาติภายนอกหมุนไป เมื่อเราไมคลอย ตามแสดงวาเราหลุดจากวงจร เมื่อแยกรูปนามก็จะหลุดจากวงจรตรงนี้ ไมถูกดึงดวยอารมณ แตถาเราไมหลุดออกมา พอมีความคิดเราก็คลอย ตาม หมุนไปตามกระแสตามอารมณตามสภาวะนั้น ๆ เขาเรียกวาหมุนไป ตามวัฏจักร ที่วาไหลตามน้ํา มีกระแสน้ําพาไป แตถาเมื่อไหรเราแยก รูปนามออกมา เราก็หลุดออกมาเหมือนอยูขางนอก เปนผูดูเขา นั่นแหละ นั่นนะสิ่งที่เรากําลังปฏิบัติอยู กําลังทําอยู เพียงแตวาอยากใหพิจารณา เยอะ ๆ
พอเราพิจารณาเยอะ ๆ ก็จะเปนการรูกวาง ที่วาธรรมะไปใช ประโยชนกับอะไรไดบาง ? หรือมีสวนใดบางของชีวิตเราที่ไมเกี่ยวกับ ธรรมะ ? ตรงนี้นะเปนคําถามใหญมากเลย ถาเราพิจารณาดูวาสวนใดบาง ของชีวิตเราที่ไมเกี่ยวกับธรรมะ เพราะธรรมะคือธรรมชาติของรูปนาม รูปนามภายในภายนอก เพราะฉะนั้นสังเกตดูไดวามีสวนไหนบางที่ไมเกี่ยว กับธรรมะเลยชีวิตเรา ที่จริงมันตกอยูในวังวนของสภาวะ วัฏจักรของ ธรรมะนั่นเอง เพียงแตเปนอธรรมหรือวาสภาวธรรม กุศลธรรมหรืออกุศล ธรรม แคนั้นเอง เพราะฉะนั้นถาเรากําหนดรูอยางนี้ ไมมีอะไรเลยที่ไมเก่ียว กับธรรมะทุก ๆ ชีวิตบนโลกอันนี้ พระพุทธเจากลาววาธรรมะ เหมือน รูปนามธรรมดา เกิดแกเจ็บตายเปนเรื่องปกติธรรมดา ทุก ๆ ชีวิตเกิดขึ้น แลวมีแกมีเจ็บมีตาย สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ตั้งอยูบนหลัก ของไตรลักษณ เกิดขึ้น ตั้งอยู แลวก็ดับไป เกิด แก เจ็บ ตาย ไมมีอะไร เลย ตัวเราก็เปนธรรมชาติอยางหนึ่งที่กําลังเปนไปตามเหตุปจจัย
167


































































































   179   180   181   182   183