Page 179 - มรรควิถี
P. 179
พอถึงแกนธรรมปบ เขาพูดอะไร สภาวะตาง ๆ รอบตัวมีอะไรบางที่หาง ออกไปไกลออกไปที่มันไมใช สิ่งที่ผานมาทั้งหมด เพียงแตการสื่อที่ แตกตางกัน แคนั้นเอง ภาษาที่ใชก็แตกตางกัน เพราะฉะนั้นจงภูมิใจใน สภาวธรรม ธรรมะที่เรากําลังปฏิบัติ เปนสภาวะที่พิเศษ ไมใชของธรรมดา หรืองาย ๆ อานิสงสที่เกิดขึ้น ประโยชนที่เราไดรับ เราจะรูเลยวาเวลา เราปฏิบัติเราไดประโยชนยังไง เวลาเราไมไดปฏิบัติ ประโยชนมันหายไป ตอนไหน อานิสงสก็คือประโยชนที่เราไดรับนั่นเอง ประโยชนในปจจุบัน ประโยชนในอนาคต ประโยชนในอนาคตก็คือหลังจากตายไปแลว เราหวัง วาหลังจากตายไปแลว อานิสงสของการปฏิบัติจะชวยใหเราไปที่ไหน ? จะ ไปเกิดเปนอะไร ? ที่ถามอานิสงสสวนมากก็คือปฏิบัติแลวเราจะไปสวรรค ไหม ?
จริง ๆ ประโยชนปจจุบันที่เรากําลังทําที่เราไดเนี่ยสําคัญ ถาปจจุบัน เราไมทุกข ปฏิบัติแลวเราไมทุกข อนาคตก็สุคติเปนอันหวังได หลังจากตาย ไปแลวไปสูความสุขแนนอน ไปสถานที่ที่เปนสุขแนนอน ไมวาจะเปนเทวดา หรือเปนมนุษย แตสวนใหญแลวสังเกตดูนะวาจิตที่วางเปลาไมมีตัวตน มันจะเบา ใชไหม ? จิตที่วางไมมีตัวตน แยกรูปนามเมื่อไหรมันเบา พรอม ที่จะขึ้นขางบน จะลอย จะลอย จะลอย แสดงวาเปดทางสวรรคแลว สัมผัส ได พิสูจนได ลองดูสิ ทําใจใหวาง เบา แลวสัมผัสดู บรรยากาศของสวรรค เปนยังไง ? อันนี้พิสูจนจริง ๆ แตเมื่อไหรที่เปนทุกข มันจะถวงจะ หนวงลง ไมเบา มันจะหนัก พรอมที่จะลงขางลาง เพราะฉะนั้นพระพุทธเจา จึงบอกวาใครก็ตามถาตายในขณะที่มีโทสะ มีความทุกข โทสะหรือกิเลส ครอบงํา ตัวนั้นจะพาไปสูอบายภูมิ ภพภูมิที่ไมมีความสุข อบายภูมิไมวา จะเปนนรกหรือวาภพภูมิที่ไมมีความสุข ตรงนั้นเขาเรียกวาอบายภูมิ เพราะจิตเราในขณะนั้น ๆ เปนผูพาไป ไปตามลักษณะของจิตหรือตาม กรรมที่ทํา กรรมที่ทําเปนประจํา เปนปกติวิสัยของชีวิตที่เปนอาจิณณ-
165