Page 180 - มรรควิถี
P. 180
166
กรรมหรือกรรมที่เกิดขึ้นกอนจะตายที่เรียกวาเปนอาสัณณกรรม กอน จะตายแลวไปคิดถึงเรื่องดีไมดี ตรงนั้นแหละเขาเรียกอาสัณณกรรม กรรมกอนตาย มันจะพาเราไป แตการที่เราฝก อยางนี้เปนการเตรียมตัว ถาฝก เปนปกติ พอจิตเราวางปกติ แยกรูปนามได อันนั้นสบายได หวัง ไดวาสุคติ หวังวาสุคติเปนอันหวังไดเลย ถาใครปฏิบัติถึงสภาวญาณที่ ๔ ถึงความวาง ชาติหนาหวังไดเลยไมตกนรก แนนอนรับประกัน เขาเรียก วาสภาวะเปนตัวรับประกันเอง ยังไงก็ไมตกนรก แตชาติตอไปไมแน ชาติตอไปไมแน แตชาติตอจากนี้เนี่ยสวรรคแนนอน ไมตกนรกแนนอน
เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราปฏิบัติอยูอานิสงสเยอะ แตวาอยากใหเราเห็น ประโยชนในปจจุบันใหเยอะเปนดีที่สุด และมีความภาคภูมิใจ ก็จะมีความ เพียรในการที่จะทําใหตัวเองปฏิบัติเพื่อความหลุดพนอยางสิ้นเชิง ใชปญญา ใหมาก จะไดไมตองเวียนวายตายเกิดอยูในภพภูมิของวัฏสงสาร หรือ สังสารวัฏ เขาเรียกการเวียนวายตายเกิดไมมีที่สิ้นสุด วัฏสงสารเปนภพภูมิ ที่นาสงสาร ใชไหม ? เดี๋ยวทุกขเรื่องนั้นเดี๋ยวทุกขเรื่องนี้ เห็นแลวก็นาสงสาร แตละคน วัฏสงสารเปนการวนเวียนที่นาสงสาร เดี๋ยวทุกขสารพัดเรื่อง ที่จริงเขาเรียกวาการเวียนวายไมมีท่ีสิ้นสุด ไมมีจุดเริ่มตนและไมมีที่สิ้นสุด แต.. สังเกตดูนะ การเวียนวายของรูปนามที่เรียกเปนปฏิจจสมุปบาท การเวียนวายหมุนไปตามเหตุปจจัยตามกงลอของธรรม รูปอันนี้จะหมุน ไปตลอด เกิด แก เจ็บ ตาย.. เกิด แก เจ็บ ตาย.. วนเวียนอยูตลอดไมมีที่ สิ้นสุด แตถาเมื่อไหรที่เราแยกรูปนามแลวหลุดออกจากวงจรอันนั้น แยก คนละสวน ถึงแมรูปจะเวียนวายตายเกิดยังไง รูปจะแกจะเจ็บ แตจิตดวง นี้จะมีแตความผองใสเหมือนหลุดจากวงจรอันนั้น หลุดจากวงจรของ ปฏิจจฯ แตดวยสภาวะของเขาเองเนี่ย ถึงแมจะมีอาการเกิดดับ แตการ หมุนตรงนั้นจะไมกอใหเราเปนทุกข เขาเรียกโสกะ ปริเทวะ โทมนัสสะ อุปายาสะ จะไมเกิดขึ้น ทุกขโทมนัสอุปายาสะ ความโศกเศราร่ําไหพิไรรําพัน