Page 335 - มรรควิถี
P. 335

ที่บอก เคยพูดหลายครั้งแลววา พระพุทธเจาตรัสไววา คนเรามีเกิด มีแก มีเจ็บ แลวก็มีตาย ทุกขทางกาย ความเจ็บปวดทางกายมีทุกคน ใครจะ มีมากมีนอย แตเมื่อมีความปวดทางกายเกิดขึ้น ถาปวดมาก เราทนไมไหว เราก็จะรูสึกมีความทุกข หรือทรมาน แตความทุกขทรมานทางกายเกิดขึ้น มา ทําไมเราถึงไมแสวงหาทางพนทุกข ? ไมแสวงหาทางหลุดพน ?
เมื่อทุกขทางกายเกิดขึ้น เราแสวงหาทางเพื่อดับทุกขเฉพาะหนา ดับทุกขเฉพาะหนาอยางเดียว ทําไมถึงบอกวาอยางนั้น ? เพราะวาเมื่อมี ทุกขทางกายเกิดข้ึน คนเราก็จะหายารักษา เพื่อบรรเทาอาการเวทนา ใชคําวา “บรรเทา” บรรเทาโรค บรรเทาเวทนาใหเบาบางลง แตในขณะที่เราบรรเทา เวทนาทางกายใหเบาบางลง จิตหนึ่งก็ปรารถนาที่อยากจะเกิดอีก ไมได ปรารถนาที่จะสละอยางสิ้นเชิง หรือหลุดพนอยางสิ้นเชิง ไมใหเจอกับ เวทนาเลย ไมตองมาเจอกับเวทนาทางกายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของ ธาตุทั้ง ๔ ที่ไมสมดุลกัน
ธาตุทั้ง ๔ ที่ไมสมดุลกันทําใหรางกายเราเกิดเวทนา รอนมากก็ เปนทุกข เย็นมากก็เปนทุกข ลมมากก็เปนทุกข น้ํามากก็เปนทุกข ทานน้ํา เยอะ ๆ ก็ปวดทอง ลมมากก็เครงตึง ทองอืด เปนทุกข ทําใหมีเวทนา รอน มาก ๆ พออากาศรอน ๆ ทนไมไหวแลว เปนทุกข รางกายเปนทุกข มี เวทนาทางกายเกิดขึ้น นี่..ทุกขทางกาย ทุกขทางกายทําใหใจเราเศราหมอง หรือไมเศราหมองก็อยูที่ปญญาของเรา
บอกวามีสองสวน ทุกขทางกายอยางหนึ่ง ที่บอกวาเราหาวิธีบรรเทา ทุกขทางกาย บางทีปวดเมื่อย เราก็เปลี่ยนอิริยาบทเพื่อคลายทุกขอันนั้น เราอยูในอิริยาบทนาน ๆ อิริยาบทใดก็ตาม ถานานเกินไปความทุกขก็จะ เกิดขึ้น นั่งนาน ๆ ก็เปนทุกข ที่เขาบอกนั่งนานเปนทุกข ทุกขอยางไร ? เรานั่งไมถึงกี่นาทีนะเริ่มเมื่อยแลว พอกายกระทบกับพื้น รูปกระทบรูป รูปอยางหนึ่งก็คือพื้น รูปอีกอันหนึ่งก็คือรางกายของเรา เขาเรียกกาย
321


































































































   333   334   335   336   337