Page 43 - มรรควิถี
P. 43
ไมมีตัวตนนี้เกิดขึ้นได เพราะเรามีสติกําหนดรูอารมณปจจุบัน ความเห็น ผิดวาตัวที่นั่งอยูหรือใจนี้เปนตัวเรา ของเรา ความจําไดหมายรูวารูปนาม อันนี้เปนของเรา มีตัวตน ก็ถูกทําลายไป แลวเราควรทําอยางไรตอ ?
สิ่งสําคัญท่ีสุดคือ เราตองรูวาเมื่อเขาถึงความเปนอนัตตาแลว รูสึกดีอยางไร ? พระพุทธเจาทรงสอนเอาไววา สิ่งทั้งหลายทั้งปวง ธรรม ทั้งหลายทั้งปวงเปนอนัตตา ธรรมทั้งหลายทั้งปวงรวมทั้งรูปนามภายใน ภายนอก ลวนเปนอนัตตา ลองพิสูจนดวยการเอาความรูสึกที่วาง ไปวาง ทีละตําแหนง ทีละสวนของรางกาย เพื่อพิสูจนดูวารูปนี้มีตัวตน หรือ ไมมีตัวตน เปนของวางเปลาจริงหรือเปลา ? รูปนี้วางเปลาจริงหรือไม ? มีสวนไหนเปนสาระ เปนแกนสาร ? ไมวาจะเปนแขน เปนมือ หัวใจ สมอง หนา หรือตา แตละสวนที่เราพิจารณา จะเห็นถึงลักษณะของความวาง ขณะที่เห็นถึงความวางเปลา มีอะไรเกิดขึ้นบาง ? บอกอะไรกับเราบาง ? นี่เปนสิ่งสําคัญมาก ๆ ถาเขาใจตรงนี้สภาวะที่เกิดขึ้น ไมวาจะเปนภายนอก หรือภายในก็ตาม ตั้งอยูในที่วางไมมีตัวตน รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ ที่เกิดขึ้น ก็ตั้งอยูในที่วาง ๆ ไมมีตัวตน เมื่อไมมีตัวตน แลวอารมณตาง ๆ นั้นเกิดขึ้นไดอยางไร ?
รูปนามไมใชของเรา จิตก็ไมใชของเรา สภาวะตาง ๆ เกิดขึ้นเพราะ อาศัยเหตุปจจัย เมื่อไมมีตัวตน เมื่อเปนของวางเปลาจะสังเกตเห็นวา เมื่อเอาความรูสึกที่วางไปที่หู ไมมีหู วางเปลา แตยังไดยินเสียง ในความ รูสึกที่วางเปลานั้น เพราะไมมีอุปาทาน ไมยึดติดวาหูเปนของเรา จะสังเกต ไดวา มีความใสของหูเปนตัวรับเสียง ความใสก็คือประสาทหูนั่นเอง เพราะ ประสาทหูดี มีการใสใจ มีชองวาง มีเสียง การไดยินจึงเกิดขึ้น กระบวน การเหลานี้เรียกวาเหตุ ปจจัย คือเปนเหตุเปนผลซึ่งกันและกัน ทุกอยาง มีเหตุ มีผล จากเหตุเปนผล จากผลเปนเหตุ หมุนเวียนอยูอยางนี้ไป เรื่อย ๆ ธรรมทั้งหลายทั้งปวงเปนอนัตตา
29