Page 98 - มรรควิถี
P. 98
84
ความทุกข วิบากตาง ๆ ที่เกิดขึ้นก็มีมาก บางคนถึงขนาดรับไมได เพราะ ฉะนั้น ถาใครปฏิบัติจนถึง มรรค ผล นิพพาน ปฏิบัติจนสิ้นอาสวะกิเลส ชาติหนาก็ไมตองกลับมาทุกขอีก ไมตองกลับมา เวียน วาย ตาย เกิด กลับ สูสภาวะธรรมชาติที่แทจริง เปนธรรมชาติที่ไมมีอะไร วางเปลา นั่นแหละ เปนความสุขที่เปนนิรันดร พวกเราที่มีความตั้งใจ มีความปรารถนาที่จะ ปฏิบัติ มีความปรารถนาที่จะไปสู มรรค ผล นิพพาน ขอใหมีความเพียร มีความเพียรในการกําหนดรู มีความเพียรในการปฏิบัติ กําหนดรูอาการ เกิด-ดับ ของรูป-นามใหตอเนื่องใหมากที่สุด ไมวาจะอยูในอิริยาบถ ขณะนั่ง ขณะเดิน ขณะทํางาน ใหมีสติรูอยูกับอารมณปจจุบันอยาง ตอเนื่อง
เมื่อไรที่มีอารมณกระทบแลว เกิดอกุศลขึ้นในจิตของตัวเอง ตองรีบดับทันทีอยาไปโวยวาย อยาไปกังวลกับอกุศลของคนอื่น เพื่อให เกิดความรูสึกที่ไมดี สิ่งที่นากลัวที่สุดก็คืออกุศลที่เกิดกับจิตของเรา เพราะอกุศลที่เกิดขึ้นกับจิตของคนอื่น ไมไดดึงใหเราอยูในวัฏฏะนี้ แตมี ผลทําใหบุคคลคนนั้น ตองวนเวียนอยูในความทุกข สวนอกุศลจิตที่เกิด ขึ้นกับจิตเรานั่นแหละ เปนตัวที่จะทําใหเราตอง เวียน วาย ตาย เกิด ถา เราดับความเปนอกุศลจิตของเราไดเร็วเทาไร การเวียน วาย ตาย เกิด ก็จะนอยลง เปนการตัดภพชาติทุกครั้ง ที่เห็นอาการเกิดดับของรูป-นาม เมื่อไรที่เราเห็นอาการนั้นดับไป จิตเราดับไปดวย เห็นเสียงดับ จิตดับดวย เห็นความคิดเกิด เห็นจิตเกิดดวย เห็นความคิดดับ จิตดับดวย ทุกครั้ง ที่เห็นการดับคือการตัดภพชาติ พอดับปุบจิตเราจะโลง มันไมมีการ ยึดตอ ดับปุบจะโลงแลวก็วางไป อารมณใหมเกิดขึ้นก็เปนสิ่งใหมเปน ภพชาติใหม เปนสิ่งใหมไมใชของเกา พอรูปุบก็ดับไปอันใหมเกิดขึ้นมา นี่อยูกับสิ่งใหมตลอด ชีวิตเราก็อยูกับชีวิตใหม ๆ ไมซ้ําซากไมจําเจ ไมไดอยูกับสิ่งเกา ดังนั้นการปฏิบัติเพื่อ มรรค ผล นิพพาน จึงตองมี

