Page 103 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การพิจารณาสภาวธรรม
P. 103
การมีสติกาหนดรู้อารมณ์ปัจจุบัน
ณ มูลนิธิมายาโคตมี กรุงเทพมหานคร วันท่ี ๒๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๒
พูดถึงการปฏิบัติธรรม เป้าหมายของการปฏิบัติ โดยตรงเลย คือ การตัดปฏิจจสมุปบาท องค์ของ ปฏิจจสมุปบาท คือการเวียนว่ายตายเกิด ท่ีเราศึกษาธรรมะ ก็ด้วยเร่ืองของการเวียนว่ายตายเกิด องค์ของ ปฏิจจสมุปบาท ๑๒ ประการ มี อวิชชา สังขาร วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ ชรามรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาสะ การวนเวียนเปลี่ยนไปรอบหนึ่ง รอบ ๆ ๆ ไม่มีจุดเริ่มต้นและไม่มีจุดท่ีสิ้นสุด การวนเวียนอยู่ในวัฏสงสารนี่นะ ทาไมถึงไม่มีจุดเร่ิมต้น ไม่มีท่ีส้ินสุด ถ้าเราปล่อยไปตามยถากรรม ปล่อยไปตามยถากรรม
ให้เป็นไปตามยถากรรม คือเป็นไปตามกรรม เป็นไปตามกรรมปกติ ที่เราไม่มีเจตนาที่จะปฏิบัติ เพื่อจะหลุดพ้นจากวัฏสงสาร มันก็จะเป็นไปแบบน้ีเร่ือย ๆ เพราะสัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรมเป็นนิจ ทีน้ีพูดถึงอารมณ์ อารมณ์ที่ปรากฏขึ้น สฬายตนะนี่นะ อายตนะ ๑๒ เกิดขึ้นภายใน ๖ ภายนอก ๖ ภายใน ๖ คือตา หู จมูก ล้ิน กาย ใจ ภายนอก คือรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์ ที่เข้ามา จะเป็นอารมณ์ ท่ีเกิดข้ึน เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ การรับรู้อารมณ์ ที่อาศัยอารมณ์ทั้ง ๖ ก็เกิดขึ้นเป็น ธรรมดา มีหูก็ได้ยินเสียง มีตาก็เห็นรูป มีจมูกก็รับกลิ่น มีลิ้นก็รับรส มีใจก็รับรู้ มีร่างกายก็ถูกต้องสัมผัส การสัมผัสอารมณ์เหล่านี้ เป็นเรื่องปกติธรรมดา
แต่อารมณ์ที่เป็นปกติธรรมดาตรงน้ีแหละ การรับรู้อารมณ์เหล่านี้ พอรับรู้แล้ว มีอะไร มีเวทนา มี ผัสสะ มีเวทนา เรื่องร่างกาย เรายังไม่อยากเกิด เราบอกไม่ให้เกิดไม่ได้แล้วตอนนี้ เพราะเกิดมาแล้ว นาม รูป สฬายตนะน่ี ถ้าไม่ให้เกิดก็ไม่ได้แล้ว เพราะเกิดมาเรียบร้อยแล้ว พอมี...ตรงนี้ มีผัสสะ สิ่งหน่ึงท่ีเกิด มีทางตา หู จมูก ล้ิน กาย ใจ อายตนะทั้งหมดมี แต่เม่ือมีอายตนะทั้งหมด ท่ีเราเป็นอยู่ทุกวันน้ี เป็นปกติ ของชีวิตเรา ใครมี ตา หู จมูก ล้ิน กาย ใจ ครบอาการ ๓๒ นี่นะ การรับรู้อารมณ์ ผัสสะตรงนี้ก็เกิดขึ้น เป็นเรื่องปกติธรรมดา
411