Page 151 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การพิจารณาสภาวธรรม
P. 151
459
อนาคตกไ็ ด้ แตค่ วามคดิ ทกี่ า ลงั ปรากฏเกดิ ขนึ้ ณ ขณะนี้ ทเี่ ปน็ อยู่ กเ็ ปน็ อารมณป์ จั จบุ นั เพราะฉะนนั้ คา วา่ การตามรดู้จูติในจติ เรมิ่ตน้จากตรงนี้เรมิ่ตน้ที่เมอื่ไหรท่มี่คีวามคดิเกดิขนึ้มาแลว้เรามเีจตนาทจี่ะกาหนด รู้ ว่าความคิดที่เกิดขึ้นมานี้ เกิดแล้วดับอย่างไร ไม่คล้อยตาม ไม่ปฏิเสธ อันนี้แหละเขาเรียกว่าการดูจิต
อาการทางจติ ทกี่ า ลงั ปรากฏเกดิ ขนึ้ เปน็ ความคดิ ทเี่ กดิ ขนึ้ มา มสี ตกิ า หนดรวู้ า่ เกดิ ดบั อยา่ งไร รกู้ าร เกิดดับแบบนี้ เพราะไม่คล้อยตาม ไม่ปฏิเสธ จิตจะไม่หงุดหงิด จะมีความสงบ จิตก็จะมีความตั้งมั่น และ พิจารณาแค่เพียงว่า ความคิดที่เกิดขึ้นก็เป็นธรรมดา เป็นธรรมดาของอะไร ของขันธ์ ขันธ์ ๕ ขันธ์ ๆ หนึ่ง ของขันธ์ ๕ เป็นเรื่องของอะไร ก็เป็นตัวสัญญาขันธ์ ตัวสังขารขันธ์ เขาเรียกจิตตสังขาร หรือตัวสัญญาขันธ์
สัญญาขันธ์ตรงไหน ถ้าเรา...ความคิดนั้นเป็นเรื่องของอดีต ระลึกได้ว่าคิดเรื่องโน้น เรื่องนี้ที่ผ่าน มา ระลึกจาได้สิ่งต่าง ๆ ก็เป็นเรื่องของสัญญาขันธ์ แต่ถ้าคิดขึ้นมาแล้วปรุงแต่งต่อ มีความคิดสัญญาเก่า เกิดขึ้น ผุดขึ้นมาแล้วปรุงแต่งต่อ ตรงนั้นก็เป็นสังขารขันธ์ สังขารไม่เที่ยง สัญญาไม่เที่ยง สังขารไม่เที่ยง ตรงนี้แหละ ทาไมเราต้องกาหนดรู้ ถึงอาการเกิดดับของความคิด เพราะความคิดคืออารมณ์ปัจจุบัน ที่ กาลังปรากฏ ที่เกิดขึ้น ที่กาลังมีอยู่จริง ๆ ณ ขณะนี้ ก็ต้องกาหนดรู้อาการเกิดดับของความคิดไป ตรงนี้ เขาเรียกว่าจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน
ตามกา หนดรอู้ าการเกดิ ดบั ของความคดิ วา่ มกี ารเปลยี่ นแปลงเกดิ ดบั ในลกั ษณะอยา่ งไร การทเี่ รา กาหนดรู้ความคิด มีเจตนาที่จะกาหนดรู้ อาการเกิดดับของความคิดตรงนี้ ความคิดยิ่งมาเร็ว สติยิ่งว่องไว ใส่ใจมากขึ้น พยายามใส่ใจเข้าไปกาหนดรู้ให้ทัน ให้ทัน มีเจตนาที่จะรู้เท่าทันความคิดของตนเองมาก เท่าไหร่ สติก็จะไวขึ้น แก่กล้าขึ้น และการกาหนดรู้ความคิดแบบนี้ จะทาให้เราเห็นอะไร นอกจากเห็นความ ไม่เที่ยงของความคิด ความคิดเป็นของไม่เที่ยง เราก็จะเห็นตัวเองมากขึ้น เห็นตัวเองอย่างไร เห็นว่าทาไม เราชอบคิดอย่างนี้ ความคิดเช่นนี้ขึ้นมา คือเราเป็นคนแบบนี้ คิดแบบนี้ เราจะมีมุมมองแบบนี้ กับเรื่องที่ เข้ามากระทบทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
บางครงั้ ทา ใหเ้ ราเหน็ วา่ เวลามผี สั สะอะไรเกดิ ขนึ้ มา เรามองในแงล่ บหรอื แงบ่ วกกอ่ น นนั่ คอื ทศั นคติ ของเรา และถ้าเป็นอย่างนั้น การมองแง่บวก แง่ลบ เห็นความคิดในแง่ลบมาก ๆ แล้ว จะทาอย่างไร เวลา คิดในแง่ลบมาก ๆ จิตใจเป็นอย่างไร มีอะไรเกิดขึ้นมาก็ขุ่นไว้ก่อน เกิดความหงุดหงิด เกิดความราคาญ ไวก้ อ่ น แทนทจี่ ะมสี ตกิ า หนดรู้ วา่ สงิ่ ทเี่ กดิ ขนึ้ ดี ไมด่ อี ยา่ งไร เกดิ ขนึ้ มาสรปุ คดิ ไปกอ่ นกม็ ี นคี่ อื การกา หนด รู้ความคิดที่เกิดขึ้น
ที่บอกว่าเห็นตัวเอง นอกจากเห็นตัวเองแบบนี้ นอกจากเห็นความคิด เห็นวิธีคิด ก็เห็นเจตนา เจตนาของตนเอง ความคิดเกิดขึ้นมา มีความเป็นกลาง ความคิดเกิดขึ้นมา ปรุงแต่งจิตในลักษณะอย่างไร ทาอะไร พูดไปมีเจตนาอย่างไร คิดแล้วประกอบด้วยเจตนาแบบไหน นี่คือการเห็นจิตตัวเองไปด้วย เพราะ ฉะนั้น เมื่อมีความคิดเกิดขึ้นมา การกาหนดรู้ความคิด รู้การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป รู้ความเปลี่ยนแปลงของ ความคิด เราจะเห็นว่าปกติของคนเรา ไม่มีใครที่จะไม่คิด ไม่มีใครที่จะไม่คิด คิดมาก คิดน้อย คิดบวก คิดลบ ขึ้นอยู่กับแต่ละคน