Page 50 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การพิจารณาสภาวธรรม
P. 50

358
บางทีพอเริ่มไปก็ เอ๊ะ!เสียงใครเสียงลมอะไร ฟืด ๆ ๆ อ้อ!ลมหายใจของเราเอง เสียงเหมือนโรงสีแบบนั้น เสียงดังมากเลย เสียงดังจนรู้สึกตกใจ นี่คือความสงัดของจิตเรา แต่เป็นความสงบของจิต ประกอบด้วย มีสติที่ดี เขาจะรู้สึกได้ นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกนะ
แล้วบางทีพอนอนไม่หลับปุ๊บก็จะรู้สึกกังวล แย่แล้วปฏิบัติจนนอนไม่หลับ แล้วทาอย่างไรดีถึงจะ นอนหลบั พลกิ ไปพลกิ มาอยากจะหลบั ทนี ไี้ มใ่ ชว่ า่ เหนอื่ ยเพราะนอนไมห่ ลบั เพราะจติ ตนื่ แตเ่ หนอื่ ยเพราะ อยากหลับคือจะเครียดเพราะอยากหลบัพอไม่หลับอยากหลับมากๆบงัคับตัวเองก็เลยกลายเป็นเครยีด ไป วิธีสังเกตแบบนี้นะ ถ้านอนไม่หลับแล้วมาดูใจเรารู้สึกเป็นอย่างไร ถ้าใจเราผ่องใสใจเราสว่าง ไม่ต้อง บังคับ ให้นอนอยู่ในความสว่างนั้นให้กายเขาได้พัก ถึงไม่หลับแต่เขาจะได้พัก ตื่นเช้าขึ้นมาจะไม่งัวเงียไม่ เพลียไม่เหนื่อย แต่ถ้านอนไม่หลับแล้วอยากหลับ บังคับให้หลับดิ้นไปดิ้นมา ตื่นมาเพลียเหนื่อยขอบตาดา จะเป็นอย่างนั้น เขาเรียกว่าเครียด ทั้ง ๆ ที่เขาไม่เสียหายอะไรเลย เขาดีอยู่ นอนไม่หลับก็ไม่เสียหายเลย แต่เสียเพราะความกังวล นี่คือวิตกกังวลเกินเหตุ ไม่ได้ดูจริง ๆ ว่าเขาเป็นแบบนั้น
การปฏบิ ตั ธิ รรมของเรา ทบี่ อกวา่ ใหส้ งั เกตทกุ ๆ สภาวะทเี่ กดิ ขนึ้ เพราะเปน็ สภาวธรรมทเี่ กดิ ขนึ้ ตอนนี้ จิตเป็นแบบนี้ เขาจะส่งผลต่อร่างกายเราแบบนี้ พอจิตเป็นแบบนี้สมาธิขณะนี้ เขาจะส่งผลต่อร่างกายเรา เปน็ แบบนี้ และพอรา่ งกายเราไมส่ บายแบบน้ี เขาจะสง่ ผลทา ใหจ้ ติ เราเปน็ แบบนี้ นคี่ อื การศกึ ษา เขาเรยี กศกึ ษา รูปนาม ดูกายดูจิตของเรา รูปเป็นเหตุนามเป็นผล นามเป็นเหตุรูปเป็นผล ก็เป็นปัจจัยซึ่งกันและกัน แล้วที่ กายเปน็ อยา่ งนเี้ พราะอะไร เพราะจติ หรอื วา่ เพราะความไมเ่ ขา้ ใจของเรา เพราะอาหาร เพราะอากาศ รา่ งกาย ที่เป็นเปลี่ยนไปเขาเรียกเหตุปัจจัยที่ทาให้เปลี่ยนไปต่าง ๆ ยังมีอีกเยอะ...ธรรมะ เพราะฉะนั้นสังเกตให้ดี
เวลานอนไม่หลับก็อย่าเพิ่งกังวล นอนไม่หลับก็ทาใจให้สบาย หลับเมื่อไหร่ก็ช่างมัน...เดี๋ยวหลับ ถ้าบอกหลับเมื่อไหร่ก็ช่าง...เดี๋ยวหลับ แต่ถ้าเราห่วงเวลาปุ๊บมันจะหลับยากขึ้น สมมติว่าเราเคยหลับสาม ทุ่มครึ่งแบบนี้ พอเลยไปสามทุ่มสิบห้า โอ้โห!รู้สึกนานมากนะ เพราะนานมาก เพราะจิตเราความกังวลของ จิตเรา ตรงนั้นนี่นะ ตรงที่จิตเรากังวลมาก ๆ เราจะสูญเสียพลังมากเลย ร่างกายเราจะเหนื่อยกว่าปกติ แต่ถ้าเราปล่อยนอนไปสบาย ๆ ๆ เราไม่ต้องใช้พลังเยอะ ที่จริงเรื่องเหล่านี้ เดี๋ยวอนาคตเราจะเจอโดยปกติ ธรรมชาติ ถึงไม่ปฏิบัติก็เจอ...ที่นอนไม่ค่อยหลับนะ เอ่อ!อนาคตไม่นานหรอกเด๋ียวเจอ แต่ถ้าเราไม่หลับ เพราะว่าการปฏิบัติ ให้สังเกตแบบนี้ เขาจะเจอเขาจะมี เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวล
อีกอย่างหนึ่ง ที่พระพุทธเจ้าสอนพระราหุลให้จิตเป็นเหมือนแผ่นดิน เหมือนอากาศ เหมือนทะเล แลว้ กเ็ หมอื นไฟ อะไรโยนเขา้ กองไฟเปน็ อยา่ งไร ไหมห้ มดละลายหมดสลายหมดแหละ แมแ้ ตเ่ หลก็ กลา้ แค่ ไหนก็ตาม โยนเข้ากองไฟก็สลายก็ละลาย เห็นไหมไฟมีความแรง ไฟมีความรุนแรง จริง ๆ พระพุทธเจ้า ให้หมายความว่า กิเลสตัวไหนจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตาม หนักแค่ไหนของหยาบแค่ไหนก็ตาม ให้เผาไหม้ มันให้หมด ตบะ คือความอดกลั้น เป็นธรรมเครื่องเผากิเลสอย่างยิ่ง ตะโป จะ พรัหมะจริยัญจะ เขาเรียก ตบะ คอื ความอดกลนั้ เปน็ ธรรมเครอื่ งเผากเิ ลส เปน็ ธรรมเครอื่ งเผากเิ ลส เราอดทนไดม้ ากแคไ่ หนกบั กเิ ลส ที่เกิดขึ้น เพราะเรามีความมั่นคงมีความหนักแน่น เดี๋ยวเขาก็ค่อย ๆ จางสลายไปหายไป


































































































   48   49   50   51   52