Page 52 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การพิจารณาสภาวธรรม
P. 52

360
มีอกุศลจิตที่เป็นอกุศลเข้ามาอาศัยแทน มาเสนอตัว เขาเรียกประกาศตัวเองว่าเป็นของเขาไปเสียแล้ว นี่! เพราะความเผลอสตขิ องเรา เพราะการทเี่ ราไมไ่ ดส้ นใจจติ ใจตวั เอง เราสนใจขา้ งนอกมากกวา่ ขา้ งใน สงั เกต ไหม บ้านของเรากลายเป็นที่อาศัยของคนอื่น
ที่บอกว่าจิตเรา ตัวจิตเองก็เป็นกลางเขาว่างอยู่ แต่พอมีผัสสะขึ้นมา กิเลสตัวไหนเกิดขึ้นอารมณ์ ไหนเข้ามาอาศัย แล้วตรงนั้นจะกลายเป็นเรา ก็เราไม่สบายเราไม่มีความสุข เพราะเราไม่พอใจ เราทาไมยึด ความไม่พอใจเป็นเราเสียล่ะ ตอนแรกความเป็นเรานี่ว่างเลย เราว่างเราโล่งเราโปร่งเรามีความสุข แล้วตอน นี้มายึดเอาความไม่สบายเป็นของเราได้อย่างไร เขามาตอนไหน มาตอนที่เราเผลอ มาตอนที่เราเผลอแล้ว ทาไมเราต้องเผลอซ้า เขามาตอนที่เราเผลออย่าเผลอซ้า ไปยึดว่าเป็นของเรา สลัดเสียไม่ใช่ของเรา ความ หงดุ หงดิ ความรา คาญมนั มาตอนทเี่ ราเผลอ...ดบั เสยี ลา้ งบา้ นเราเปดิ ประตใู หเ้ ขาออก วธิ เี ปดิ ประตใู หค้ วาม ไม่พอใจออกไป คือเอาความรู้สึกว่าเป็นเราออก
เอ่อนี่! ยังไม่ได้บอกนะ ยังไม่ได้บอกวิธีเอาความรู้สึกว่าเป็นเราออก เวลาเราทาจิตให้ว่างปุ๊บ ทา จิตให้ว่างทาจิตให้กว้าง ความรู้สึกที่ว่างเขาบอกว่าเป็นเราไหม...ไม่เป็นเรา ขณะที่ไม่มีเราตัวรู้สึกหนักหรือ เบา...เบา ทีนี้ลองเอาความรู้สึกว่าเป็นเรามาใส่ที่ตัวสิ บริเวณหัวใจเรารู้สึกเป็นอย่างไร...หนักหรือเบา เอา ความรู้สึกว่าเป็นเราใส่เข้าไป รู้สึกเป็นอย่างไร กลับเอาความรู้สึกว่าเป็นเราออกไปไกล ๆ อันไหนสบายกว่า กัน สบายกว่าใช่ไหม นี่คือการละอัตตา นิดเดียวเอง แค่เอาความรู้สึกว่าเป็นเราออกจากตัว แล้วปล่อยให้ ไปไกล ๆ ทาใจเราให้กว้างปุ๊บ ลองดูรู้สึกเป็นอย่างไร...สบายไหม เอาความรู้สึกว่าเป็นเราใสที่ตัวปุ๊บ รู้สึก บรเิ วณตวั ...หนกั ขนึ้ มาทนั ที นแี่ หละความเคยชนิ ของเรา เพราะฉะนนั้ วธิ กี ารดบั ตวั ตน เอาความรสู้ กึ วา่ เปน็ เราออกแล้วปล่อยให้กว้าง ให้มันสลายไปในอากาศเลย เอาความรู้สึกว่าเป็นเราออก
แล้วความรู้สึกว่าเป็นเรา ความรู้สึกว่าเป็นเราตรงนี้คืออะไร จริง ๆ คือตัวทิฏฐิ คือความเข้าใจผิด แล้วมีอุปาทาน และเข้าไปยึดว่านี่คือของเรา พอเอาความรู้สึกว่าเป็นเราออกปุ๊บ เห็นความจริงเห็นความ เป็นอนัตตา ดับความรู้สึกว่าเป็นเราเหลือแต่ความว่าง เข้าสู่ความเป็นอนัตตา จิตจะอิสระทันที นั่นคือการ ชาระจิต การชาระจิตพอจิตไม่มีตัวตนปุ๊บ ลองคิดถึงเรื่องเดิมรู้สึกเป็นอย่างไร เรื่องที่ทาให้ทุกข์เมื่อกี้นี้ คิด แล้วไม่ทุกข์มันว่าง ๆ ไป ว่าง ๆ ก็คิดได้ แต่ก็ว่าง ๆ เบา ๆ นี่เป็นตัวบอกว่าคนที่ทาหน้าที่รับอารมณ์ คือ ความรู้สึกว่าเป็นเรา ที่เรียกว่าโมหะหรือความหลง หลงไปยึดว่ารูปนี้เป็นของเรา เพราะฉะนั้นถ้าการปฏิบัติ ที่มีเจตนาที่เป็นไปเพื่อความดับทุกข์แล้ว เบื้องต้นให้ดับความรู้สึกว่าเป็นเราเป็นที่ตั้ง เมื่อมันเกิดขึ้นมาเอา ความรู้สึกว่าเป็นเราออกก่อน ตั้งสติดี ๆ เอาความรู้สึกว่าเป็นเราออกก่อน แล้วตั้งสติดี ๆ แล้วพิจารณาให้ ชัดว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ควรทาอย่างไรต่อไป นี่คือธรรมะที่เราปฏิบัติ นี่คือธรรมะที่เราปฏิบัติและเป้า หมายที่เราจะเดินทางไป คือตรงนี้
ใครที่มีเป้าหมายปฏิบัติแบบนี้ ลองดู จาเอาไว้ ถ้าไม่อยากจะทุกข์นับจากนี้ไป ถ้าเราอยากจะดาเนิน ชีวิตอยู่อย่างมีความสุขไม่อยากจะทุกข์ จงดับความรู้สึก เอาความรู้สึกว่าเป็นเราออก แล้วเติมความสุข เขา้ ไป ทา ใจใหว้ า่ งเตมิ ความสขุ เขา้ ไป แลว้ รบั รอู้ ารมณต์ า่ ง ๆ ดว้ ยความรสู้ กึ ทไี่ มม่ ตี วั ตน ทา ซา้ ๆ ๆ ทา ๆ ๆ


































































































   50   51   52   53   54