Page 72 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การพิจารณาสภาวธรรม
P. 72
380
ทนี ตี้ อ้ งไลท่ ลี ะอยา่ ง รา่ งกายนเี้ ขาเรยี กวา่ เปน็ รปู เปน็ รปู ขนั ธ์ แลว้ เวทนาขนั ธท์ เี่ กดิ ขนึ้ ละ่ เวทนาขนั ธ์ ที่เกิดขึ้นกับจิตที่ว่างเบานี่นะ เป็นส่วนเดียวกันหรือคนละส่วนกัน ไล่แบบนี้นะสนุก ๆ ต้องลองดูว่าเวทนา ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปวด เมื่อย ชา คัน ลองดูว่า ถ้าให้เป็นส่วนเดียวกัน จิตที่ว่างเบากับเวทนานั้น เป็น ส่วนเดียวกัน หรือคนละส่วนกัน อันนี้คือเวทนาทางกาย พอเวทนาทางจิต เวทนาทางใจขึ้นมา พอมีผัสสะ กระทบปึ๊บ มันมีอาการขุ่นวาบขึ้นมา เป็นกลุ่มก้อนทึบ ๆ มัว ๆ เป็นก้อนแน่น ๆ ขึ้นมา ลองสังเกตว่า จิต ที่ทาหน้าที่รู้ กับก้อนอันนั้น เป็นส่วนเดียวกันหรือคนละส่วนกัน
การทเี่ รยี กวา่ เปน็ กอ้ นเวทนา กค็ อื ความทกุ ข์ ความอดึ อดั ความแนน่ ความขนุ่ ความหอ่ เหยี่ ว หดหู่ ตรงนี้ นั่นคือลักษณะเวทนาทางจิต พอดูปึ๊บ ดูว่า ถ้าให้จิตที่เบากว้างกว่าเวทนานั้นปึ๊บ รู้สึกเป็นอย่างไร เวทนาบอกว่าเป็นของเราไหม เวทนาบอกว่าเป็นเราไหม หรือว่า อ๋อ!มันมีผัสสะ มันก็มีเวทนา ผัสสะแล้วมี เวทนาขนึ้ เวทนากไ็ มใ่ ชข่ องเรา เราเปน็ ผดู้ เู วทนา นนี่ ะใชแ้ ทนคา วา่ เราอกี จรงิ ๆ แลว้ เมอื่ กนี้ ไี้ มม่ เี ราแลว้ มี แต่จิตที่ทาหน้ารู้นี่ กว้างกว่าเวทนาปึ๊บ ผุดขึ้นมาสักพัก เวทนานั้นสังเกตได้เลยว่า ตรงนี้เวทนาก็จัดเป็นจิต อย่างหนึ่ง ตัวจิตที่ทาหน้าที่รู้ก็เป็นจิต จะกลายเป็นว่าแยกนามกับนาม เวทนาเป็นเจตสิก ก็เจตสิกก็คือจิต
เพราะฉะนั้น แยกกันปึ๊บนี่นะ ลองดูว่าเวทนาตั้งอยู่นานไหม ถ้าแยกกัน แล้วควรจะไปยึดเวทนา นั้นเอามาเป็นของเรา หรือให้เขาดับไป ขึ้นมาแล้วก็ดับไป ถ้าปล่อยให้เวทนานั้นดับไปในที่ว่าง ๆ ลองดูว่า รู้สึกเป็นอย่างไร ไม่ใช่ของเรา ไม่แสดงความเป็นเจ้าของปึ๊บน่ีนะ พอไม่แสดงความเป็นเจ้าของ แล้วรู้ตรง ไหน ก็มาดูตัวจิตที่ทาหน้าที่รู้ ตัวรู้ที่ทาหน้าที่รู้เวทนา จิตที่กว้างแล้วนี่นะ ไปดูจิตที่เบาที่กว้าง ที่ไปรู้เวทนา พอไปดูปึ๊บ อ้อ!จิตเรา...ไม่เป็นไร จิตที่ทาหน้าที่รู้ยังเบายังสงบอยู่ เวทนาก็เป็นแค่ผัสสะ และเวทนาขึ้นมา อ่ะ! เดี๋ยวก็ดับไป ดับแบบไหน อันนี้ตรงนี้แหละ เขารู้ว่าเขาดับเร็วข้ึน ไม่มีที่เกาะ ตอนที่เราไม่ได้แยก แบบนี้นะ
นี่คือการแยกระหว่างเขา เรียกแยกรูปแยกนาม แยกนามกับนาม แล้วรูปนามแยกจากกัน พอเห็น จิตกับเวทนาเป็นคนละส่วนกัน ลองดูว่า มีอะไรเป็นของเรา พอไม่บอกว่าเป็นเรา รู้สึกเป็นอย่างไร มันไม่มี จดุ ศนู ยร์ วมของอารมณ์ เวทนาเกดิ ทางใจ กเ็ กดิ ในทวี่ า่ ง ๆ เวทนาทหี่ วั เขา่ กเ็ กดิ ทหี่ วั เขา่ เวทนาทหี่ ลงั กเ็ กดิ ที่ หลงั จะมชี อ่ งวา่ งเสมอ จะมชี อ่ งวา่ งระหวา่ งตา แหนง่ แตถ่ า้ เมอื่ ไหรเ่ ปน็ เรา ลองสงั เกต เมอื่ ไหรท่ รี่ สู้ กึ วา่ รปู นี้ เป็นของเรา เวทนาที่เกิดขึ้นมานี่นะ มันจะไม่มีช่องว่างระหว่างอารมณ์เลย พอไม่มีช่องว่างระหว่างอารมณ์ เราจะไม่มีที่อยู่ หรือไม่มีที่พัก มันจะมีเวทนาบีบคั้นตลอดเวลา
แต่ถ้าเมื่อไหร่เวทนาเยอะแยะ แต่เห็นช่องว่างระหว่างอารมณ์ เดี๋ยวเวทนาตรงนี้ เวทนาตรงนี้ ชอ่ งวา่ งตรงนี้ มนั มวี า่ งไป วา่ ง ๆ นดิ หนงึ่ ๆ ถา้ เราฉลาด เรากไ็ ปอยตู่ รงทชี่ อ่ งวา่ ง เดยี๋ วเวทนาขนึ้ มาแลว้ วา่ ง ก็เข้าไปในช่องว่างระหว่างเวทนา ๆ เวทนาก็เกิดดับไป จิตก็ไปเข้าไปตรงช่องว่างระหว่างเวทนา กลายเป็น ว่า ปวดแล้วก็หาย ปวดหาย ปวดหาย ...สมัยนี้ไม่มีขายแล้วนะ คนยุคก่อนจะรู้ว่าปวดหายซองสีเขียว ๆ ...ไม่ทันนะ เอ่อ!ไม่ทัน ก็เลยไม่ทันมุกเหมือนกัน แต่เขาไม่เขียนปวดหาย เขาเรียก บวดหาย บวชแล้ว จะหาย