Page 74 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การพิจารณาสภาวธรรม
P. 74

382
แต่ที่ไม่เห็น เพราะมีความเป็นเราเป็นผู้รู้ มีอัตตา มีอวิชชาครอบงา เลยคิดว่ามีเรา ๆ ตลอด จึงไม่ เหน็ การเกดิ ดบั เพราะฉะนนั้ เมอื่ ไหรท่ แี่ ยกรปู นาม ยกจติ ขนึ้ สคู่ วามวา่ งปบ๊ึ อาการอะไรขนึ้ มา กจ็ ะเหน็ แลว้ วา่ มนั วาบหาย เดยี๋ วแวบ็ มา เสยี งมากอ็ ยใู่ นทวี่ า่ ง ๆ เกดิ ดบั ๆ ไป กลายเปน็ อาการเกดิ ดบั เราเหน็ ธรรมชาติ ของอารมณ์ได้ง่ายขึ้น ตรงนี้แหละ ที่ทาให้ปัญญาที่เห็นถึงอาการพระไตรลักษณ์เกิดขึ้นมา เลยเห็นได้ง่าย ขึ้น นี่คือการแยกรูปแยกนาม
เพราะฉะนนั้ ทนี่ พี้ อไดแ้ ยกแบบนี้ ลองสงั เกตตอ่ ระหวา่ งเวทนากบั จติ เปน็ คนละสว่ นกนั ลองสงั เกต ถ้าจิตที่ว่างเบาของเรา จิตที่ว่างเบานี่นะให้กว้างออกไปอีก ให้กว้างออกไป กว้างเท่ากับท้องฟ้าไปเลย กว้าง เท่ากับท้องฟ้า รู้สึกเบารู้สึกโล่งไปหมด ลองย้อนกลับมาคิด ดูความคิด เรื่องที่คิดกับจิตที่กว้างจิตที่เบา จิตที่ว่างจิตที่เบากับความคิด อันไหนกว้างกว่ากัน เอาแบบนี้ทีละขั้นตอน ก็คือว่า พอคิดขึ้นมาจิตกว้าง เท่าท้องฟ้าได้ แล้วลองคิดถึงเรื่องที่ต้องคิดสิว่า จิตที่ว่าง จิตที่เบา กับเรื่องที่คิดอันไหนกว้างกว่ากัน
ถ้าเราไม่สังเกตอย่างนี้นะ เราคิดถึงบ้าน เราไม่ได้คิดแค่ไม่ได้อยู่นอกบ้านหรอก คิดถึงบ้าน เข้า ประตไู ปเรยี บรอ้ ยแลว้ บางคนคดิ ถงึ บา้ น เขา้ ไปถงึ หอ้ งครวั เรยี บรอ้ ยแลว้ พอคดิ ถงึ บา้ น เขา้ ไปถงึ หอ้ งนอน เรียบร้อยแล้ว เพราะนอนที่นี่ไม่ค่อยสบาย กลับถึงบ้านจะนอน จะได้ทิ้งตัวแบบอิสระ ทิ้งตัวหรือทิ้งสติ ต้องสังเกตให้ดีนะ ทิ้งตัวก็ทิ้งสติไปด้วย แล้วก็จะได้ปล่อยมันจะได้อิสระแบบสบาย แต่นี่คือการที่เรา ไม่ได้ดูจิตตัวเอง แต่ถ้าคิดแล้ว ลองดูให้จิตนั้นกว้างกว่าความคิด เรื่องที่คิด มีเรื่องความคิดอันไหน ที่ใหญ่กว่าจิตเราได้บ้าง จิตที่ว่าง จิตที่เบากว้างไม่มีขอบเขต ลองดูว่า เรื่องอะไรที่ใหญ่กว่าจิตของเราได้ เห็นไหม?
เรื่องอะไรก็ตามไม่สามารถใหญ่กว่าจิตของเราได้ จิตที่ใหญ่กว่าคือจิตที่มีกาลัง พอจิตที่มีกาลัง จิต ใหญ่กว่าอารมณ์อันนั้น เรื่องเหล่านั้น ลองดูว่าเรื่องเหล่านั้นบีบคั้นจิตใจได้ไหม เห็นไหม ไม่สามารถบีบคั้น จติ ใจได้ เพราะใจมนั ใหญ่ มแี ตใ่ จจะบบี อารมณน์ นั้ ใหเ้ ลก็ ลง ลองดสู ิ จติ ทวี่ า่ งทเี่ บาแลว้ กวา้ ง แลว้ มองกลบั พอมองเขาไป ลองดู ถามว่าเห็นความคิดนั้นมันไกลออกไป ๆ ให้ห่างตัวออกไปไกล ๆ ลองดูว่ารู้สึกเป็น อย่างไร นี่คือการแยกจิตกับจิต แยกจิต โดยเฉพาะความคิดแบบนี้นี่แหละ
อาจารยพ์ ดู ถงึ ความคดิ นนี่ ะ ไมเ่ กยี่ งนะวา่ เปน็ ความคดิ แบบไหน ไมเ่ กยี่ งวา่ จะเปน็ ตอ้ งเปน็ ความคดิ ที่ดี มันถึงจะห่างไปได้ แต่เป็นความคิดเรื่องที่ไม่ดี ที่รบกวนจิตใจเราตลอดเวลา ไม่สามารถให้ไปไกลขณะ นั้นได้ ไม่มีข้อยกเว้น เพราะธรรมชาติคือความเท่าเทียม เพราะอนัตตาคือความเท่าเทียม เพราะอนิจจังคือ ความเท่าเทียมของอารมณ์ การที่ยกจิตขึ้นสู่ความเป็นอนัตตานี่นะ คือทุกอย่างก็เป็นอนัตตา แต่จิตของเรา ที่เราสามารถกาหนดจิตของตัวเองให้กว้างได้ นี่คือเกิดจากอะไร...เกิดจากปัญญา ปัญญาที่เรารู้ว่า จิตเป็น อย่างไร ทาอย่างไรถึงจิตจะมีกาลัง ทาอย่างไรจิตถึงจะอิสระ
เพราะการกระทา การเจริญกรรมฐานคือการกระทา เราปฏิบัติธรรม มีสติรู้อยู่กับปัจจุบัน รู้อาการ พระไตรลักษณ์ รู้อาการเกิดดับของอารมณ์ต่าง ๆ ก็เพื่อทาให้จิตอิสระ ไม่ถูกพันธนาการด้วยอารมณ์ ต่าง ๆ เหล่านั้นนั่นเอง เพราะฉะนั้น การที่รู้วิธีการกาหนดจิต รู้วางตาแหน่งของจิต การที่เราให้กว้าง ๆ ให้


































































































   72   73   74   75   76