Page 82 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การพิจารณาสภาวธรรม
P. 82
390
เวลาเรานกึ ถงึ พอ่ แม่ นดิ หนงึ่ นะ ลองดนู ะ เออ่ !ใครกต็ าม พอ่ แมจ่ ะยงั อยู่ หรอื ไมไ่ ดอ้ ยใู่ นโลกนแี้ ลว้ ก็ตาม เราน้อมถึงบุญกุศล ทาให้มาเต็มใจเราปึ๊บ นึกถึงพ่อแม่นี่นะ เขาจะมีมโนภาพขึ้นมา พอมีมโนภาพ ลองสง่ ความสขุ นนั้ ไปทภี่ าพนนั้ ไปทหี่ นา้ ทา่ น ไปทรี่ ปู คลมุ ตรงนนั้ เลย ลองดวู า่ หนา้ ตาทา่ นรสู้ กึ เปน็ อยา่ งไร เอาจิตที่มีความสุขที่เป็นบุญนี่นะ ส่งเข้าไปคลุมทั้งตัวท่าน รู้สึกเป็นอย่างไร หน้าตา...มีความรู้สึกไหมว่า จิตเราพลังบุญเราไปถึง กับที่เรานึกถึงเฉย ๆ แล้วจิตไม่มีพลัง นึกถึงปึ๊บ ขอให้ท่านเป็นสุข ๆ นี่นะ รู้สึก เป็นอย่างไร มันเหมือนกับแค่คิด แต่บุญไปไม่ถึง
เพราะคนที่ส่งบุญได้ดีที่สุด ก็คือลูกหลาน คนที่เคยปฏิสัมพันธ์และอยู่ใกล้ เราจะสัมผัสได้ง่าย ที่สุด เราจะสัมผัสได้เร็ว และเราจะแยกชัดว่า บางครั้งมีแต่มโนภาพ เหมือนกับไม่มีจิตวิญญาณมาอยู่ด้วย มันเป็นแค่ความคิดเฉย ๆ แต่บางครั้ง มโนภาพนั้นปรากฏขึ้นมา มีทั้งบรรยากาศมาด้วย มีทั้งบรรยากาศ รู้สึกเหมือนมีชีวิตจริง ๆ เหมือนเป็นเทวดาองค์หนึ่ง เพราะนั้นการที่ส่งบุญแบบนี้นี่นะ คือจะส่งโดยตรง ด้วยความรู้สึกของเราเอง เหมือนที่เราส่งความรู้สึกมาไว้ที่หน้า ที่สมอง ที่มือ
ตอนนี้ลองดูนะ ลองส่งความสุขไปที่บ้าน ทาจิตให้มีความสุข ความสุขเต็มตัว แล้วส่งความสุขนี้ไป ที่บ้านเรา รู้สึกไหมว่าในบ้าน บรรยากาศในบ้านของเราเป็นอย่างไร เป็นการส่งพลังบุญไปที่บ้านก่อน พอ เรากลับบ้านนะ เรากลับบ้านไป เราก็จะเจอบรรยากาศดี ๆ ที่เราส่งไป มันเป็นพลังบุญที่เราสามารถส่งได้ จริง ๆ เพราะฉะนั้นจึง...การแผ่เมตตา อาจารย์จึงให้เราน้อมถึงบุญกุศลมาใส่ตัวเราให้เต็ม กับลูกกับหลาน ก็เหมือนกัน เราก็ส่งไปให้ลูกหลานนี่นะ ลูกหลานจะอยู่ที่ไหนก็ตาม เพราะการเดินทางของจิตเรา ไม่มีเวลา ไม่มีระยะทาง
เราเคยได้ยินว่า ถ้าคนเราเดินทางเร็วไม่มีเวลานี่นะ เดินทางเร็วเหนือกาลเวลา เราจะไม่แก่ จิตของ เราจึงไม่แก่ไง จิตไม่มีแก่ แต่เกิดแล้วดับแค่นั้นเอง เพราะฉะนั้น การส่งพลังส่งจิตแบบนี้นะ ที่อาจารย์บอก ว่า ให้แผ่จิตที่เป็นบุญกุศลให้กว้างออกไป ไม่มีขอบเขตไม่มีประมาณ ให้กว้างเท่าจักรวาล เจตนาก็คือให้ เราแผ่ให้กับทุก ๆ คน เป็นอัปปมัญญา ไม่ว่าจะเป็นศัตรูหรือมิตร เราก็แผ่บุญอันนี้ให้ ใครที่ปรารถนา ก็ รับได้ เพราะจะไม่ยัดเยียด เราจะไม่...ต้องรับบุญนะ เพราะอะไร คนข้างบ้าน ที่บ้าน เรากลับบ้านบอกเอา บุญมาฝาก บางครั้งก็ทาหน้าบึ้งใส่เรา แต่ถ้าเราไปด้วยความสุข ไปแล้วมีแต่พลังความสุขไป ไม่ต้องบอก ว่าเอาบุญมาฝาก เขายังได้บุญ ยังรู้สึกมีความสุข
แตถ่ า้ เขาพรอ้ มทจี่ ะรบั ไปทา บญุ มานะ เอาบญุ มาฝากนะ รสู้ กึ ไปแลว้ ปฏบิ ตั ริ สู้ กึ จติ ใจดจี งั เลย สบาย จังเลย เขาก็เกิดความอนุโมทนาบุญ ยินดีแล้ว ก็จะได้รับพลังบุญนี้เยอะแยะ เพราะฉะนั้น จึงใช้คาว่าถ้า อนุโมทนาบุญ จริง ๆ แล้ว อยากให้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเทวดา เป็นอมนุษย์ อาจารย์จะไม่อมนุษย์ต่าง ๆ นะ ยกใหเ้ ปน็ เทวดา ใชค้ า วา่ เทวดาไป คอื รวมไป เพราะจะไดร้ บั ทงั้ หมด ใหท้ กุ คนทอี่ ยู่ ไดร้ บั ถงึ บรรยากาศของ พลงั บญุ เรา ทบี่ อกใหก้ วา้ งเทา่ จกั รวาล ไมใ่ ชแ่ คด่ า้ นขา้ งกบั ขา้ งบน เพราะคา วา่ จกั รวาล คอื ครอบคลมุ ไปทงั้ หมด เรากส็ ง่ จติ ไปทงั้ หมดเลย ใหก้ วา้ งไมม่ ขี อบเขต แลว้ การทา จติ ใหก้ วา้ งแบบนี้ เปน็ การให้ ใหบ้ ญุ ทไี่ มป่ ระกอบ ด้วยตัวตน เป็นให้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ให้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ แล้วเราก็จะได้ส่งบุญ เป็นบุญที่บริสุทธิ์