Page 59 - แนวทางการปฏิบัติธรรม
P. 59

เพราะฉะนั้น เวลาที่วึบ-สว่าง วึบ-สว่าง... วึบแล้วจิตยิ่งตื่นตัว ยิ่ง สวา่ งขนึ้ ผอ่ งใสขนึ้ กไ็ มต่ อ้ งไปหายบิ ๆ จดุ ทตี่ อ้ งสงั เกตคอื อาการวบึ ดบั ไป เด็ดขาดขึ้น ๆ เร็วขึ้น หรือช้าลง ให้สังเกตตรงวึบใหม่ ๆ ๆ ๆ พอเขาวึบ แล้วสว่างขึ้น อะไรสว่างขึ้น ? ความรู้สึกสว่างขึ้น บรรยากาศข้างหน้า สว่างขึ้น จุดที่โยคีจะต้องสังเกตคือ ขณะที่ข้างหน้าสว่างขึ้น ความรู้สึก สว่างขึ้น จิตตื่นตัวขึ้นไหม จิตตั้งมั่นขึ้นไหม ? ตรงนั้นแหละเป็นตัวบอก ว่าสติมีกาลังมากขึ้น จิตตื่นตัวแล้วรู้ชัดในสภาวะ แล้วที่สาคัญคือ ถ้าจิต เราสว่างขึ้น ใสขึ้น ดีไหม ? จิตดีอยู่แล้ว! เพราะฉะนั้น ไม่ต้องไปหาว่า อาการยิบ ๆ มันหายไป ไม่ต้องไปกังวลหรอก เพราะเขาดีขึ้นแล้ว ให้รู้ ต่อเนื่องไป ให้สังเกตแบบนี้ ถึงแม้ว่าเราเดินต่อไปไม่มีอาการยิบ ๆ มีแต่ ยกแล้วก็ใสวาบไป เหมือนสว่างเป็นเส้น วาบ-หาย วาบ-หาย... ไม่เห็น การกระทบ ไมเ่ หน็ ตอนยก แตก่ า้ วไปเปน็ เสน้ วาบ-หาย วาบ-หาย วาบ-หาย นี่คืออาการเกิดดับ ให้สังเกตตรงที่วาบ-หาย วาบ-หาย... อาการที่วาบหาย จากทวี่ าบยาว ๆ เขายาวขนึ้ ๆ หรอื วาบยาวสนั้ ลง ๆ ๆ นคี่ อื อาการเกดิ ดบั นี่คือสภาวธรรมในขณะที่เดินจงกรม
เพราะฉะนั้น เวลาเดิน เราบอกว่าอาการเกิดดับขณะที่เดินจงกรม มอี าการวาบ-หาย วาบ-หาย วาบ-หาย... ไมต่ อ้ งไปบอกวา่ จดุ กระทบไมช่ ดั เลย ตอนยกกไ็ มช่ ดั ... ไมต่ อ้ ง! จดุ กระทบไมม่ กี ค็ อื ไมม่ ี มแี คน่ กี้ เ็ ลา่ แบบนี้ วาบ-หาย วาบ-หายไป พอสุดทางเดินพออาการวาบหายหมดไป จิตรู้สึก เปน็ อยา่ งไร... สวา่ ง นงิ่ ปบ๊ึ ตนื่ ตวั จติ ตงั้ มนั่ รปู ตงั้ ตรงมพี ลงั หนาแนน่ แลว้ กส็ งั เกตตอ่ พอเดนิ รอบถดั ไป อาการจากทวี่ าบ-หาย เขาเปลยี่ นไปอยา่ งไร สังเกตแบบนี้ นี่คือการกาหนดสภาวะ สังเกตว่าอาจารย์พูดถึงบัญญัติ นิดเดียวเอง ดูขอบนิดหนึ่ง แป๊บเดียวไปถึงอาการวาบ-หายแล้ว ถ้าโยคีทาได้
53
































































































   57   58   59   60   61