Page 38 - สภาพจิต
P. 38
32
ถา้ มเี มเี ศษอารมณก์ เ็ หมอื นเราดบั แลว้ แตย่ งั มเี มเี ชอื้ ไฟอยู่ พอมผี สั สะเขา้ มาอกี ยังมีการ ยังมีการ เกาะเกี่ยวยังมีการเข้าไปยึดอยู่ แต่ถ้าเห็นอาการดับเด็ดขาดหมดไป อย่างหลักที่เราปฏิบัติกันอยู่น้ี ที่ให้สังเกตว่าเม่ืออาการดับแล้วความรู้สึก หรือจิตดับด้วยไหม “จิต” ตรงนี้หมายถึง จิตของเราหรือตัวเราท่ีตามรู้ อาการ อาการ อาการ ขณะท่ีตามรู้ไป ๆ พออาการดับปุ๊บเราก็วึบหายไปด้วย นี่คือ ลักษณะอาการดับของความรู้สึกหรือจิต
เราเริ่มจากการเห็นอย่างเดียวว่า อาการดับ-จิตท่ีไปรู้ก็ดับ อาการดับ อาการดับ -จิตดับ -จิตดับ เห็นการดับตรงน้ีเราเห็นอะไร ? เราเห็นอาการของรูปนามดับ ถ้าเราเห็นว่าเวลาอาการดับ-จิตดับด้วย คือรู้สึกเหมือนเราดับไปนิดหนึ่งด้วย ไม่ว่าจะดับไปนิดหน่ึงหรือนานก็ตาม ต้องรู้ชัด! แล้วเวลาอาการเกิดใหม่ เราเกิดข้ึนมาใหม่ด้วยหรือเปล่า หรือเราเกิดขึ้นมาใหม่แล้วก็ไปรับรู้ อาการใหม่ ? น่ีเป็นสภาวธรรมท่ีโยคีพึงใส่ใจเลย เป็นลักษณะสภาวะท่ี จะเกิดขึ้น ให้สังเกตตามท่ีเป็นแบบน้ี แล้วจิตที่เกิดขึ้นมาใหม่มีความ เปลี่ยนไปอย่างไรก็ให้รู้ชัดตามนั้น ถ้าเห็นว่าอาการดับ จิตดวงนี้ก็ดับไป เหน็ จติ จติ ดวงใหมเ่ กดิ กดิ ขนึ้ ขนึ้ มา มา สงั เกตวา่ จติ จติ ดวงใหมท่ เ่ี กดิ กดิ ขนึ้ ขนึ้ มาเรอื่ ย ย ย ย ย ย ๆ มคี วาม เปลี่ยนไปอย่างไร ต่างไปอย่างไร
การพจิ ารณาถงึ การเกดิ การเกดิ การดบั ของรปู นามกเ็ กยี่ วเนอื่ งกบั การเกดิ การเกดิ การตาย ทพี่ ระพทุ ธเจา้ เคยถามภกิ ษวุ า่ ระลกึ ถงึ ถงึ ความตายวนั ละกคี่ รง้ั ภกิ ภกิ ษุ ก็ตอบว่า ระลึกถึงวันละสองครั้งบ้างสามครั้งบ้างสี่คร้ังบ้าง ระลึกถึง ระลึกถึง ระลึกถึง ก่อนนอนบ้าง แต่พระพุทธองค์ทรงตรัสว่าพระองค์ระลึกถึงความตายอยู่ ทุก ทุก ๆ ๆ ๆ ๆ ขณะจิต ขณะจิต เราจะระลึกถึงความตายอย่างไรถึงจะเห็นทุก ๆ ๆ ๆ ๆ ขณะจิต ขณะจิต ? จริง ๆ ๆ ๆ ๆ ก็คือลักษณะของวิถีจิต คืออาการเกิดดับ ลองสังเกตดูง่าย ๆ ๆ ๆ ๆ ว่า