Page 12 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การเล่าสภาวะ
P. 12

764
จติ ทอี่ มิ่ ตรงนยี้ งิ่ ดยู งิ่ อมิ่ แลว้ ใหก้ วา้ งขนึ้ กวา้ งขนึ้ ... ใหเ้ ตม็ ถามวา่ พอเตม็ แลว้ เปน็ อยา่ งไร ? ความ รสู้ กึ หรอื จติ ที่ “เตม็ ” เขาดอี ยา่ งไร ? เตม็ ไปดว้ ยอะไร ? เตม็ ไปดว้ ยความดี เตม็ ไปดว้ ยความสขุ เตม็ ไปดว้ ย พลัง อิ่มด้วยอะไร ? อิ่มด้วยบุญ ความอิ่มนี่รสชาติเขากลมกล่อมไม่มีอะไรเกิน ใช่ไหม ? “อิ่ม”เมื่อไหร่เรา จะรู้สึกว่าทุกอย่างมันมีหมด แต่ถ้ารู้สึกมีความสุขเต็มไปหมด “สุขเต็มไปหมด” กับ “รู้สึกว่าอิ่ม” รสชาติจะ มีความแตกต่างกัน ในความอิ่มมีทั้งความสุขทั้งความหนักแน่นมั่นคง แต่พอสุขปุ๊บนี่มันเด่นเฉพาะความ สุข แม้มีความหนาแน่นขึ้นก็ตาม มีความเต็มเหมือนกันแต่ไม่เรียกว่าอิ่ม นี่คือสภาพจิตของเราที่เกิดขึ้นที่ เราต้องสังเกตต้องพิจารณา
ทีนี้ในการปฏิบัติ สิ่งที่เราจะต้องไม่ลืมก็คือว่า เวลากาหนดอารมณ์ทุกครั้ง รู้ชัด ๆ ไปเลย ไม่ต้อง กลัวเขาหาย ไม่ต้องกลัวว่าไม่เห็น ถ้าหายก็หาย ไม่เห็นก็ไม่เห็น! เวทนาเกิดขึ้น เข้าไปรู้ ไม่ต้องกลัวปวด เพราะเวทนายงั ไงกป็ วด เวทนากค็ อื ความปวด พอใหไ้ ปดเู วทนา ไมก่ ลา้ ดู เดยี๋ วจะเหน็ ความปวด ถา้ ไมป่ วด ก็ไม่เรียกว่าเวทนา ใช่ไหม ? เวทนาที่เกิดขึ้นเป็นสภาวธรรมที่อาศัยไปสู่ความดับทุกข์ เวทนาที่พูดถึงตรงนี้ จริง ๆ แล้วเป็นลักษณะของเวทนาที่เราเรียกว่า เจ็บ ปวด เมื่อย ชา คัน แสดงอาการพระไตรลักษณ์ที่เด่น ชัดที่สุด ถ้า(เวทนา)ทางจิตจะเรียกว่าเป็นความสุข ความสงบ ความนิ่มนวล ความอ่อนโยน ความมั่นคง ใช้ ชื่อนั้นไปเลยว่าจิตรู้สึกสงบขึ้น มีความสุขขึ้น... จะไม่เรียกว่ามีเวทนาทางจิตเกิดขึ้น
เวทนาทางจติทเี่กดิขนึ้กบัเวทนาทางกายทเี่กดิขนึ้วธิกีารดบัอารมณ์จะมีความแตกตา่งกนันดิหนึ่ง เพราะว่าลักษณะของเวทนาทางกายที่เกิดขึ้น บางครั้งปวดจะเป็นจุด เป็นก้อน เป็นแท่ง เป็นเส้น หรือเป็น แหลม ๆ เหมือนถูกจิ้มด้วยของแหลมคมด้วยเข็ม เหมือนมดกัดเหมือนมดไต่... พวกนี้เราจะบอกได้ถึง ลักษณะของเวทนาที่ชัดเจนว่าเขามีการเปลี่ยนแปลงเกิดดับอย่างไร แต่ถ้าเป็นเวทนาทางใจ เราบอกว่า รู้สึกมีเวทนาทางใจมาก ๆ เลย ไม่ดีเลย กาหนดเวทนาสิ เวทนาเกิดดับอย่างไร ? เราจะกาหนดได้ยาก แต่ถ้าบอกว่า ใจรู้สึกอึดอัดมาก ๆ เป็นกลุ่มเป็นก้อนแน่นไปหมด ตรงนี้จะกาหนดได้ง่าย นี่คือสภาวะที่ เกิดขึ้น
ที่บอกว่าภาษาไทยของเรา เราใช้แยกอารมณ์แยกสภาวะเป็นอย่าง ๆ ได้ชัดเจนในแต่ละคา การ ที่เราฝึกใช้คาพูดให้ตรงกับสภาวะ เราจะสื่อสารได้ชัดเจนได้ตรงประเด็นในสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็นอย่างไร เป็น อาการของจิต เป็นอาการของรูป เขามีการเกิดดับเปลี่ยนแปลงอย่างไร การดูสภาพจิตก็เหมือนกัน สภาพ จิตเราเปลี่ยนไปอย่างไร สภาพจิตที่จริงมันเป็นรายละเอียดเฉพาะแต่ละบุคคล แต่ละขณะ แต่ละสภาวะที่ เกิดขึ้น จะพูดรวม ๆ แบบนี้... พูดได้ ฟังได้ แต่บางทีความเข้าใจมีความลึกซึ้งแตกต่างกันในแต่ละสภาวะ ของตนเอง ถ้ายังเข้าไม่ถึงก็จะไม่รู้สึกว่าเป็นยังไง แต่สิ่งที่เราต้องรู้คือ สภาพจิตของเราเองที่เป็นอยู่ตอนนี้ เป็นอย่างไร ให้เริ่มต้นแบบนี้เสมอ สภาวะจะชัด เขาจะพัฒนาไปตามขั้นตอนของเขาเอง
แลว้ อกี อยา่ งหนงึ่ ทอี่ าจารยอ์ ยากใหโ้ ยครี กู้ ค็ อื วา่ ถา้ ดี ใหบ้ อกวา่ ดเี ลย! ถา้ เหน็ วา่ ดี บอกวา่ ไมด่ ี แลว้ จะแยกได้ยังไงว่าอันไหนไม่ดี ? สภาพจิตที่เกิดขึ้น ถ้าดีบอกได้เลย การเล่าสภาวะไม่ต้องกลัวว่าเป็นการ อวด แตถ่ า้ ไปอวดคนอนื่ อนั นน้ั ไมด่ ี เลา่ วา่ ฉนั ดอี ย่างนนั้ ดอี ยา่ งนี้ อนั นนั้ ไมด่ แี นน่ อน เพราะการเลา่ แบบนนั้


































































































   10   11   12   13   14