Page 24 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การเล่าสภาวะ
P. 24
776
เห็นไหม บางทีแค่คนอ่ืนพูดปุ๊บน่ีถ้าเราคล้อยตามนะ เราก็ เอ๊.... เราไม่ได้พิจารณาดี ๆ ลองดูสิ ลาบากขนาดไหน... มาแล้ว โอ้โฮ! ส่ิงท่ีจินตนาการกับความเป็นจริงต่างกันมากเลย! เพราะฉะน้ัน สภาวะ ก็เหมือนกัน สภาวะท่ีเราเข้าถึงแล้ว ถ้าเรามาถึงแล้วเรากลับไปพูดต่อน่ี เราจะบอกได้เลยว่าดีอย่างไรไม่ดี อยา่ งไร สภาวะทเ่ี คยเหน็ แลว้ เขาเปน็ อยา่ งไร สภาพจติ เปน็ อยา่ งไร จติ สงบเปน็ อยา่ งไร จติ ทเ่ี บาเปน็ อยา่ งไร อาการเกิดดับเปล่ียนแปลงอย่างไร เราจะบอกได้ เหมือนเช่นสถานท่ีน้ีมีอะไรบ้างเราก็บอกได้
อีกอย่างหน่ึงก็คือว่า โยคีมัวกังวลว่าเขาเรียกว่าอะไร - สภาวะน้ีเรียกว่าอะไรดี มันสงบแบบน้ีเรียก ว่าอะไรดี... จริง ๆ พูดไปเรียบร้อยแล้ว ก็มันสงบ เรียกว่าสงบไหม ? มันสงบแบบน้ีจะเรียกว่าอะไรดี ก็ เรียกว่าสงบไง พูดไปเรียบร้อยแต่ก็จะมาหาว่า เอ๊ะ! แล้วเขาเรียกว่าอะไร เขาเรียกว่าอะไรช่างเขาเถอะ ขอ ให้เราเรียกสาหรับเราได้ก็ดีแล้ว เหมือนกับเรารู้สึกสงบ รู้สึกใส รู้สึกอิ่ม เล่าได้เลยนะ โยคีไม่ต้องห่วงว่า ปฏิบัติแล้วมันรู้สึกพิสดารมาก ๆ เลย มันดีมาก ๆ ใสมาก ๆ ผ่องใสมากเลย บอกไม่ถูกเลย... ก็เล่าไป เถอะ พูดแค่นั้นก็ได้แล้ว
เผื่ออาจารย์จะเข้าใจบ้าง อาจารย์จะได้ อ๋อ! เป็นแบบนั้นเหรอ เดี๋ยวยังมีดีกว่านี้นะ... ถ้าอาจารย์ บอกได้ว่ายังมีดีกว่านี้ ไม่ต้องห่วงว่าที่เล่ามาอาจารย์จะเข้าใจหรือเปล่า อันนั้นตัดไปเลย แล้วทาไมอาจารย์ ไม่บอกว่าเรียกว่าอะไร ก็เรียกเรียบร้อยแล้ว! สังเกตไหม ภาษาที่เราใช้เองเป็นภาษาสภาวะที่เกิดขึ้นจริง ๆ ไมใ่ ชภ่ าษาทอี่ ยใู่ นหนงั สอื ทเี่ ขาบญั ญตั มิ า บางอยา่ งอาจารยโ์ ยงเขา้ เพอื่ ใหร้ วู้ า่ อนั นคี้ อื ภาษาทเี่ ขาบญั ญตั มิ านะ ในหนังสือเขาเรียกว่าอย่างนี้ แต่สภาวะเขาเป็นแบบนี้
สภาวะที่เป็นตรงนี้เขาเรียกว่า “องค์ธรรม” องค์ธรรม คือ สภาวะที่เกิดขึ้นจริง ๆ ไม่ใช่ชื่อเรียก ยกตัวอย่างง่าย ๆ เวลาเรามีความสุขมาก ๆ แล้วรู้สึกอยากให้คนอื่นมีความสุข ตรงที่อยากให้คนอื่นมี ความสุขเขาเรียก “เมตตา” แต่องค์ธรรมของความเมตตาคือ ความสุข ความอิ่ม เพราะฉะนั้น ทุกครั้งที่มี ความสุขความอิ่มใจ เมตตาก็จะเกิดขึ้นเอง ความอยากให้คนอื่นมีความสุขเขาจะเกิดขึ้นมาเอง ถึงแม้จะ ไม่ชอบก็อยากให้เขามีความสุข
เคยไหม คนที่เคยรู้สึกไม่ชอบก็ยังรู้สึกว่าช่างเขาเถอะ อยากให้เขามีความสุข อโหสิให้ แล้วก็เป็น การให้ด้วยใจจริง ๆ เป็นการให้จากความรู้สึกเรา ไม่ใช่แค่ให้ผ่าน ๆ ไป นี่คือจิตที่มีเมตตา องค์ธรรมของ ความเมตตาเขาจะเกิดเอง ตรงนั้นไม่ใช่แค่คิดปรารถนาดีอยากให้เขามีความสุขแล้วเราก็คอยอิจฉานิด ๆ พอเขามีความสุขเขายิ้ม ก็แหม... ใช่ไหม ? นิดหนึ่ง แอบนิดหนึ่ง... ไม่ได้ องค์ธรรมของความเมตตา จะไม่มีความรู้สึกอย่างนั้น
เพราะฉะนั้น ที่บอกว่าเวลาเล่าสภาวะ ให้บอกได้เลยว่าวันนี้เดินแล้วกําหนดไม่ได้เลย อํากํารเขํา เป็นแบบนี้อย่ํางเดียว... ถ้าบอกว่าเดินแล้วกาหนดไม่ได้เลย ให้บอกว่าที่กาหนดไม่ได้เขาเป็นอย่างไร พอมี ความคิดเกิดขึ้นมาเยอะแยะมากมาย กาหนดไม่ได้เลย ให้รู้ว่าเขาเป็นอย่างไร แล้วจะได้แก้ปัญหา ไม่ยาก หรอก! ความคิด ความเครียด ความทุกข์ ความไม่เข้าใจ การเข้าไม่ถึงสภาวะ เหล่านี้แก้ไม่ยากนะ! แต่โยคี ต้องร่วมมือ ต้องพร้อมที่จะแก้ แต่ถ้าพูดไปแล้ว เฉย ไม่เอา ไม่ฟัง... อันนี้ก็แก้ยากเหมือนกัน