Page 45 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การเล่าสภาวะ
P. 45
797
ก็เล่าตามน้ี เล่าตามที่เห็น แต่ท่ีเป็นมาก็คือว่า เวลาสภาวะไม่ค่อยชัด มักจะเล่าไม่ค่อยชัดตาม ไม่ใช่ว่า ไม่ม่ันใจ ส่วนหน่ึงก็คือว่า ที่ไม่ชัดตาม สภาวะไม่ชัดแบบไหน จากท่ีเคยเห็น ยกตัวอย่างท่ีเห็นเวทนา แยก สว่ นกนั ชดั เจนแบบนี้ จติ กบั เวทนาแยกกนั แลว้ จติ มคี วามตง้ั มน่ั มคี วามผอ่ งใสนน่ี ะเลา่ ไดช้ ดั แตพ่ อมเี วทนา เกดิ ขนึ้ มานน่ี ะ แตบ่ างครง้ั เวทนาเกดิ ขน้ึ พอกา หนดหรอื รเู้ วทนา ไมว่ า่ จะเปน็ กลมุ่ เปน็ กอ้ นไมช่ ดั เจน มอี าการ ระยิบระยับ มีอาการคันมีอาการแปล๊บ ๆ มีอาการกระตุก ก็จะไม่ม่ันใจ เอ๊ะ!ใช่...ไม่ใช่ ทาไมเป็นอย่างน้ี
ถ้าเป็นแบบน้ันก็เล่าสภาวะ คาว่าใช่ไม่ใช่เน่ีย จึงถามว่าท่ีเราคิดว่าใช่...ไม่ใช่ท่ีเราคิดว่าใช่คืออะไร ใช่อะไรและไม่ใช่อะไร คาถามที่บอกว่าสภาวธรรมอาการที่เกิดขึ้น ใช่สภาวธรรมไหม เวทนาที่เกิดขึ้น ใช่ สภาวธรรมไหม อันนี้อย่างหนึ่ง ถ้าเราถามแบบนี้ คาตอบคือ...ง่ายมาก เวทนาที่เกิดขึ้นก็คือสภาวธรรม เพียงแต่คาถามต่อไปก็คือว่า แล้วเวทนาที่เกิดขึ้น เกิดดับอย่างไร เพราะฉะนั้นเวทนา...ทุกเวทนาไม่ว่าจะ เป็นทางกายหรือทางจิต เขาเป็นสภาวธรรม แต่เวทนาเกิดขึ้นมาแล้วเกิดดับอย่างไร เวทนานั้นเกิดดับใน ลักษณะอย่างไร นั่นคือสิ่งที่เราต้องใส่ใจหรือต้องสังเกต ไม่ใช่เวทนาแบบนี้เกิดขึ้นได้ด้วยเหรอ เกิดขึ้น จนหายไปแล้ว ถามว่าเกิดได้ด้วยเหรอ เขาเกิดมาแล้ว อันนี้คืออย่างหนึ่ง แบบนี้ก็มีเหรอ...มี เพราะเกิดขึ้น แล้ว ถ้าเขายังไม่เคยเกิด แบบนั้นจะเป็นไปได้ไหม เกิดเมื่อไหร่ก็เป็นแบบนั้น
เหมือนสภาวธรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ที่บอกว่าจิตมันเปลี่ยนแบบนี้ จิตใสแบบนี้เป็นได้เหรอ อย่างที่ เราฟงั กนั โยคแี ตล่ ะคนทเี่ ลา่ สภาวะ บางคนใสแบบนนั้ บางคนสวา่ งแบบนี้ คนไมเ่ คยเหน็ เอะ๊ ! สวา่ งอยา่ งไร หมายความว่าอย่างไร ใสนี่...หมายความว่าอย่างไร ว่างนี่หมายความว่าอย่างไร จริง ๆ แล้วนี่นะไม่มีความ หมาย ไม่มีคาแปล เพราะว่างคือว่าง ใสคือใส สว่างคือสว่าง โล่งคือโล่ง นั่นคือโดยตรง ถ้าจะแปลก็คือ โล่งเพราะไม่มีอะไรอยู่ในนั้นเลย รู้สึกโล่ง ๆ ใส แต่ถามว่าใสแบบไหนเราเปรียบเทียบได้ ใสเหมือนกระจก ใสกวา่ กระจก ใสเหมอื นเพชร ใสเหมอื นนา้ ในทะเล แสดงวา่ ทเี่ ปรยี บเทยี บแบบนี้ ไมใ่ ชว่ า่ ใสอยา่ งเดยี วแลว้ จะเปรียบเทียบทุกอย่าง ใสแต่ละขณะคือความแตกต่างของเขา นี่คือตัวสภาพจิต นี่คือจิต
นี่เป็นตัวบอกว่าจิตของคนเรานี่นะ เปลี่ยนเป็นใสในลักษณะอย่างไร ใสแบบน้าทะเลเป็นอย่างไร ลึก ๆ จิตที่ใส ๆ พอลึก ๆ รู้สึกอย่างไร จิตที่ใสเหมือนกระจก ลึก ๆ แล้ว มันลึกหรือไม่ลึก เห็นไหม เอ่อ! อันนี้ก็สังเกตอีกแหละ มีพลังต่างกันอย่างไร มีรสชาติที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นความใสที่เกิดขึ้น ในการ เจริญสติของเรา เราดูจิตมันใสแล้ว ใสมากเลย ใสเหมือนกระจก สะอาดมาก...กว่าที่เคยเป็น แต่ยังสะอาด ได้มากกว่านี้ แต่นี่สะอาดมากแล้วนะ ก็สะอาดมากแล้วแหละแต่ยังสะอาดได้มากกว่านี้ จาเป็นต้องทาให้ สะอาดมากกว่านี้ไหม...แล้วแต่
ถา้ สะอาดมากกวา่ นจี้ ะดอี ยา่ งไร กเ็ หมอื นกบั ทเี่ ราเคยสวา่ งแลว้ แตย่ งั ไมส่ ะอาดเทา่ นแี้ หละ สวา่ งแลว้ ก็สบายแล้ว แต่ยังไม่สะอาดเท่านี้ พอสะอาดขนาดนี้ดีกว่าเดิมไหม...ดีกว่าเดิม และถ้ามีสะอาดมากกว่านี้ เขาจะดกี วา่ เดมิ อกี ไหม เดาไดเ้ ลย คาดไวเ้ ลยวา่ นา่ จะดกี วา่ นี้ เรากค็ ดิ วา่ เออ่ ! มนั ดี จติ เราเปน็ ไปไดข้ นาดนนั้ เปน็ ไปไดแ้ บบนนั้ หลกั ของการปฏบิ ตั จิ งึ บอกวา่ อารมณห์ ลกั ทเี่ รากา หนดรู้ ตอ้ งรวู้ า่ เรากา หนดอะไร กา หนด เวทนา กาหนดความคิด