Page 52 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การเล่าสภาวะ
P. 52
804
เอาง่าย ๆ นะ ปฏิบัติมาแล้วน่ีนะ จึงถามว่า เวลาเล่าสภาวะรู้สึก ยกตัวอย่าง สภาพจิตมีความผ่องใสมาก เลย ยกตัวอย่างนะ ตอนน้ีสภาพจิตมีความผ่องใสมากเลย ท่ีรูปรู้สึกหนักแน่นมีพลังเต็ม มีความสว่าง มี ความม่ันคง แต่พอกาหนดรู้ไปอีก จากท่ีเคยสว่างมากเลย เล่าแบบมันใสมากเลยนะ สาเนียงแบบน้ีฟัง เข้าใจนะ พอรอบถัดไป พอดูรู้สึกใสกว่าเดิม ถ้าโยคีเล่าแบบน้ันจะจาได้แม่น มันใสมากเลยให้ดูต่อนะ พอไปดูต่อปุ๊บ จิตท่ีผ่องใสน้ันมีกาลังมากข้ึน หนาแน่นกว่าเดิม กว้างกว่าเดิม ใสข้ึนกว่าเดิมอีก เล่าแค่น้ี จบ ไม่ต้อง....มากกก
คือโยคีเล่าแบบน้ีจะรู้สึกว่า พยายามเน้นจังเลยนะ กลัวว่าอาจารย์จะไม่เข้าใจ ว่ามากกว่ากันน้ัน เป็นอย่างไร กลัวอาจารย์ลืมครั้งก่อน กลัวจะลืมคร้ังก่อน ถ้าเล่าแบบน้ีไม่ค่อยลืม...จาแม่นนะ บางคร้ังจา ได้แม่นกว่าโยคีเล่าอีก เพราะอะไร พอเจอปุ๊บ พระอาจารย์จะถาม ตอนนี้สภาพจิตต่างจากครั้งนั้นอย่างไร ครั้งนั้น อ๋อ! สงบกว่าเดิม...กว่าจะระลึกได้ ไม่ใสเหมือนเดิมแล้ว มันสงบ จริง ๆ แล้ว ใสมาก ๆ ตอนนี้ใส แล้วเปลี่ยนเป็นสงบ เป็นความใสที่สงบมากกว่าเดิม ต้องมีจุดหนึ่งที่รู้ถึงความแตกต่าง เห็นไหม ใสเหมือน เดิมแต่สงบมากกว่าเดิม ใสเหมือนเดิม แต่มีพลังงานหนาแน่นมากกว่าเดิม นี่คือความแตกต่าง ไม่ใช่แค่ ความใสอย่างเดียวที่เหมือนเดิม หรือต้องเปลี่ยนไป ใสเหมือนเดิม ใสมากขึ้นกว่าเดิม อันนี้ลบออกได้เลย ใสเหมือนเดิมยังรู้สึกใสอยู่ แต่สงบมากขึ้นกว่าเดิม เห็นไหม สภาพจิตแจ่มใสอยู่แต่หนาแน่นและตั้งมั่น มากกว่าเดิม นี่คือความต่าง เล่าแค่นี้ก็ชัด
ไม่ต้องมีทั้งใส ทั้งสงบ ทั้งตั้งมั่น มีทั้งหนักแน่น รวม ๆ แล้ว เล่าจบมองหน้าอาจารย์ ดีกว่าเดิมหรือ ยงั คอื เลา่ จบแลว้ อาจารยจ์ ะวา่ ดกี วา่ เดมิ ไหม จรงิ ๆ แลว้ เราเลา่ สรปุ ไดเ้ ลย ดกี วา่ เดมิ แบบนี้ อนั นสี้ า คญั นะ การเล่าสภาวะแบบนี้ เป็นสิ่งที่สาคัญมาก ๆ เพราะสังเกตดู ทุกครั้งที่เล่าสภาวะได้ชัดแบบนี้ สภาพจิตเรา รู้สึกเป็นอย่างไร ดีใช่ไหม ดี...ดีคาเดียวจบเลย เดี๋ยวอาจารย์ถามต่อนะ ดีอย่างไร นี่คือเวลาเล่าสภาวะ มี ทกุ อยา่ งเลยดหี มดเลย อยา่ งนนั้ กด็ ทู กุ อยา่ งทดี่ ใี นนนั้ ตอ่ ไป เรากง็ ง ๆ ทกุ อยา่ งทดี่ คี อื อะไรบา้ ง งานคอื อะไร บ้าง ดีทุกอย่างแล้วต้องรู้ต่อไหม ถ้าบอกให้ดูต่อ ก็รักษาน้าใจกันนิดหนึ่ง ช่วยดูต่อนิดหนึ่ง ว่าจะดีกว่านั้น ไหม...มันดีทุกอย่างแล้ว ดีแล้วข้ามไปก่อน ไม่ดีค่อยว่ากัน
เล่าสภาวะจะรู้สึกว่า คือทุกครั้งที่ให้ดู ที่ถามนี่นะ ไม่มีอะไรหรอก เพียงแต่ต้องการอยากให้พัฒนา ต่อไป ให้ดีกว่าเดิมนะ ไม่ใช่อะไรหรอก คืออยากให้ดีกว่าเดิม รู้เจตนาตรงนี้ก็พอ ไม่ต้องทาไม อ่ะ! ทาไม ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากให้ดีกว่าเดิม ใสขนาดนี้ ดีขนาดนี้ยังไม่พออีกเหรอ พอก็ได้ แล้วแต่สิทธิ์แล้วกัน จรงิ ๆ พดู จรงิ นะ เพราะเปน็ สทิ ธขิ์ องโยคี แตถ่ า้ เปน็ สทิ ธขิ์ องอาจารย์ เปน็ สทิ ธขิ์ องโยค.ี ..พอกไ็ ด้ แตถ่ า้ เปน็ สิทธิ์อาจารย์แล้ว อาจารย์ต้องอยากให้ก้าวหน้า อยากให้พัฒนาต่อไป
เพราะฉะนั้นอาจารย์ก็ใช้สิทธิ์อาจารย์ ในฐานะที่อาจารย์เป็นผู้สอน ในฐานะที่โยคีเป็นศิษย์อาจารย์ อาจารยก์ แ็ บบนสี้ ิ ตอ้ งทา แบบนี้ ถา้ ไมร่ สู้ กึ วา่ เปน็ ศษิ ยอ์ าจารย์ อาจารยก์ ไ็ มร่ จู้ ะทา อยา่ งไร...ใหส้ ทิ ธิ์ ๆ เพราะ ฉะนั้นนี่เวลาปฏิบัติ การที่เราจะเล่าสภาวะได้ชัด ก็ต้องสภาวะที่เกิดขึ้น การกาหนดก็ชัดเจน ต้องชัดเจนว่า กาหนดอะไร แล้วอีกอย่างหนึ่งการแก้ปัญหาของเราคือ แก้ปัญหาเรื่องความคิด เรื่องสภาพจิตที่ติดค้างอยู่