Page 33 - บทความวิชาการนานาชาติวารสารวิทยาลัยสงฆ์ปี60.
P. 33
105
วิทยาลัยสงฆ์นครน่านฯ เฉลิมพระเกียรติฯ
ร่วมมือ กิจกรรม หรือ งำนวิจัยต่ำง ๆ โดยกำรด่ำเนินงำนของ”ประชารัฐ” กลุ่มต่ำงๆ กันซึ งแต่ละกลุ่มก่ำลัง บทบำทของผู้น่ำที ดีในยุค 4.0 จะไม่ใช่ผู้ที คอยสั งกำรอีกต่อไป แต่จะเป็นผู้ที คอยส่งเสริมสนับสนุน ให้
10
วำงระบบและก่ำหนดแนวทำงในกำรขับเคลื อนนโยบำยอย่ำงเข้มข้น ลูกน้องแต่ละคนสำมำรถท่ำงำนที ตัวเองรับผิดชอบให้ส่ำเร็จ รวมถึงกำรคิดสิ งใหม่ๆ กำรน่ำเอำคุณค่ำที มีในตัว
พนักงำนมำสร้ำงสรรค์เป็นนวัตกรรม ซึ งก็คือผู้อ่ำนวยกำรและพัฒนำกร (OD : Organization Development)
ความส าคัญภาวะผู้น าเชิงพุทธที่มีต่อสังคมในยุคไทยแลนด์ 4.0 ไทยแลนด์ 4.0 การต่อสู้ในสงคราม โดยมีทักษะที จ่ำเป็นดังนี้
11
ที่ไม่มีวันชนะ 1) ต้องเข้าใจในความต่างของคนและศรัทธาในคุณค่ำควำมแตกต่ำงของแต่ละคน (Personal Values
ถ้อยค่ำที เกี ยวข้องกับกำรพัฒนำประเทศในยุคนี้ที เรำได้ยินบ่อยคือ “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” “ไทยแลนด์ Trust)ผู้น่ำต้องเชื อว่ำพนักงำนทุกคนมีคุณค่ำและข้อดีในตัวเอง สิ งนี้คือ Mindset แรกของผู้น่ำยุค 4.0 ซึ งผู้น่ำ
4.0” “ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” “ประชารัฐ” “นวตกรรม” “ก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง” “ไม่ทิ้ง ต้องมองเห็นควำมถนัดของลูกน้อง แล้วจึงจะสำมำรถพูดคุยกับเขำในกำรก่ำหนดเป้ำหมำยร่วมกัน ชวนเขำคิด
ใครไว้เบื้องหลัง” และ “ความเหลื่อมล้ า” นำยกรัฐมนตรีและทีมงำนด้ำนเศรษฐกิจได้พูดตอกย้่ำวำทกรรมชุด หำวิธีกำรท่ำงำนส่วนนั้นให้ส่ำเร็จ
นี้อย่ำงต่อเนื อง รวมทั้งได้ใช้กลไกรัฐในทุกส่วนขับเคลื อนกำรบริหำรและกำรจัดสรรงบประมำณให้สอดคล้อง 2) ต้องฟังเก่งและฟังด้วยหัวใจ (Deep listening)
กับวำทกรรมชุดนี้ เมื อผู้น่ำได้เห็นคุณค่ำของลูกน้องแล้ว สิ งต่อมำคือต้องรับฟังให้มำกด้วย เพรำะกำรฟังสำมำรถท่ำให้พนักงำนมี
เท่ำที ติดตำมจำกเนื้อหำสำระของไทยแลนด์ 4.0 ที นำยกรัฐมนตรีถ่ำยทอดออกมำสู่สำธำรณะ ผมเห็นว่ำ ตัวตนอยู่จริง หลำยองค์กรผู้น่ำส่วนใหญ่มักชอบพูดเยอะแต่ฟังน้อย จนลูกน้องไม่กล้ำแสดงควำมคิดเห็น ซึ งไม่
รำกฐำนของวิธีคิดในกำรพัฒนำประเทศของรัฐบำลยังคงเป็นกำรมอง “กำรพัฒนำแบบเส้นตรง” โดยมีกำร ต่ำงจำกกำรปิดกั้นโอกำสและเวทีโชว์ศักยภำพในทำงอ้อม แต่ถ้ำผู้น่ำเปิดโอกำสให้พวกเขำมีเวทีแสดงควำม
จ่ำแนกขั้นตอนกำรพัฒนำศรษฐกิจไทยเป็น 4 ยุค ยุคแรกคือเกษตรและหัตกรรม ซึ งถูกเรียกว่ำ ยุค 1.0ต่อมำ คิดเห็น ก็ยิ งท่ำให้พวกมีพลังคิดมำกขึ้นและยังแสดงให้เห็นว่ำพวกเขำมีตัวตนอยู่จริงในองค์กร
เป็นยุคอุตสำหกรรมเบำ เรียกว่ำ 2.0 ถัดจำกนั้นเป็นยุคอุตสำหกรรมที มีควำมซับซ้อน เรียกว่ำ 3.0 และ ยุค พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต) พระพุทธเจ้ำเคยตรัสว่ำ พระองค์จะปรินิพำนต่อเมื อพุทธบริษัท
อุตสำหกรรมที ใช้เทคโนโลยีระดับสูงและนวัตกรรม เรียกว่ำ 4.0 ตำมล่ำดับดุเหมือนว่ำรัฐบำลมีควำมมุ่งมั น 4คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบำสก อุบำสิกำ ทั้งหลำยทั้งปวงคือพระภิกษุ ทั้งเถระ ทั้งมัชฌิมะ ทั้งนวกะ ภิกษุณีก็
อย่ำงมำกที จะขับเคลื อนให้ประเทศไทยพัฒนำเป็นไทยแลนด์ 4.0 โดยหวังว่ำระบบเศรษฐกิจฐำนเทคโนโลยี เช่นเดียวกันพร้อมทั้งอุบำสก อุบำสิกำ ทั้งที ถือพรหมจรรย์ และที เป็นผู้ครองเรือนทั้งหมดต้องเป็นผู้มี
และนวตกรรมจะเป็นพลังในกำรสร้ำงรำยได้ให้แก่ประเทศจนสำมำรถหลุดพ้นจำกประเทศที ตกอยู่ในกับดัก คุณสมบัติที จะรักษำพระศำสนำไว้ คือ
รำยได้ปำนกลำง ไปสู่ประเทศที มีรำยได้สูง ซึ งในท้ำยที สุดก็จะสร้ำงควำมมั นคง มั งคั ง ยั งยืนแก่ประเทศต่อไป 1) ต้องเป็นผู้มีควำมรู้ เข้ำใจหลักธรรมค่ำสอนของพระพุทธเจ้ำได้ดี และประพฤติปฏิบัติได้ถูกต้องตำม
บทบาทภาวะผู้น าเชิงพุทธที่ดียุคไทยแลนด์ 4.0 ค่ำสอน
เนื องจำกเป็นยุคของกำรบริหำรจัดกำรคนให้ดูแลคน เป็นเรื องของควำมเชื อในควำมเป็นมนุษย์ และ 2) นอกจำกรู้เข้ำใจเอง และปฏิบัติได้ดีแล้ว ยังสำมำรถบอกกล่ำวแนะน่ำสั งสอนผู้อื นได้ด้วย
คุณค่ำที มีอยู่ในตัวทุกคน (Human Being) นั นเพรำะ 4.0 คือยุคของนวัตกรรมและโลกที ทันสมัยใน 3) เมื อมีปรับวำทเกิดขึ้น คือ ค่ำจ้วงจำบสอนคลำดเคลื อนผิดเพี้ยนจำกพระธรรมวินัย ก็สำมำรถชี้แจง
กำรประยุกต์ Digital Life ผนวกกับนวัตกรรมอันทรงคุณค่ำ ที แต่ละองค์กรต้องสร้ำงมำเพื อให้มีลักษณะเฉพำะ แก้ไขได้ด้วยตอนที พระองค์จะปรินิพพำนนั้น มำรก็มำกรำบทูลว่ำเวลำนี้พุทธบริษัท
และแตกต่ำงอย่ำงยั งยืนด้วยเหตุนี้จึงท่ำให้คุณสมบัติของผู้น่ำเปลี ยนไป เพรำะเป็นเรื องที กลับมำใกล้ตัวมำก 4 มีคุณสมบัติพร้อมอย่ำงที พระองค์ได้ตรัสเหมือนกับเป็นเงื อนไขไว้แล้ว พระพุทธเจ้ำทรงพิจำรณำเห็น
บทบำทของผู้น่ำยุค 4.0 นิยำมให้ “ผู้น่ำต้องเปลี ยนเป็นผู้อ่ำนวย หมำยถึง ผู้อ่ำนวยกำรเรียนรู้หรือคอย ว่ำเป็นอย่ำงนั้นจึงทรงรับที จะปรินิพพำน โดยทรงปลงพระชนมำยุสังขำรพุทธด่ำรัสนี้ ก็เหมือนกับว่ำ
อ่ำนวยกำรในทุกๆเรื อง เพื อให้คนท่ำงำนสำมำรถอยู่ได้ด้วยตัวเอง” ยุค 4.0 ผู้น่ำจะต้องคอยส่งเสริมและ พระพุทธเจ้ำทรงฝำกพระพุทธศำสนำไว้กับพุทธบริษัททั้ง 4 แต่ต้องมองให้ตลอดด้วยว่ำ
อ่ำนวยให้เกิดองค์กรจัดกำรตัวเอง (Self Organization) ซึ งเชื อมโยงไปกับวิถีของคนยุค 4.0 อย่ำงชัดเจน ส่วน ทรงฝำกพระพุทธศำสนำไว้กับพุทธบริษัทที เป็นอย่ำงไรชำวพุทธจะเป็นผู้มีคุณสมบัติถูกต้องที จรรโลงพระ
ในแง่ของ HR 4.0 ก็จะมองไปที กำรเชื อในคุณค่ำของคน (Personal Value) ศรัทธำในคุณค่ำที มีอยู่ในตัวทุกคน ศำสนำไว้ก็เริ มด้วยมีคัมภีร์ที จะให้เรียนรู้เข้ำใจพระธรรมวินัยอันเป็นของ
เชื อว่ำทุกคนสำมำรถดูแลและจัดกำรตัวเองได้ ก่อเกิดนวัตกรรมใหม่ๆได้ด้วยตัวเองเช่นเดียวกันสิ งที น่ำสนใจคือ แท้ก่อนเป็นอันว่ำ ในแง่นี้พระไตรปิฏกก็เป็นหลักของพุทธบริษัทต้องอยู่คู่กับพุทธบริษัท โดยเป็นฐำน
ให้แก่พุทธบริษัทซึ งจะท่ำให้ชำวพุทธเป็นผู้มีคุณสมบัติที จะรักษำพระศำสนำไว้ได้สองฝ่ำยนี้ คือ ตัวคนที จะ
10 แหล่งข้อมูล http://www.drborworn.com/articledetail.asp?id=16223, http://www.libarts.up.ac.t h รักษำพระศำสนำกับตัวพระศำสนำที จะต้องรักษำ ต้องอำศัยซึ งกันและกันพระศำสนำจะด่ำรงอยู่และจะเกิด
/v2/img/Thailand-4.0.pdf ผลประโยชน์ ก็ต้องมำปรำกฏที ตัวพุทธบริษัท 4 ต้องอำศัยพุทธบริษัท 4 เป็นที รักษำไว้ พร้อมกันนั้นในเวลำ
11 เผยแพร่: 21 ก .ค.2560 13:17:00 โดย :MGR Online"ปัญญาพลวัตร"