Page 37 - บทความวิชาการนานาชาติวารสารวิทยาลัยสงฆ์ปี60.

109
วิทยาลัยสงฆ์นครน่านฯ เฉลิมพระเกียรติฯ

ทีเดียวส่ำหรับประเทศอังกฤษและยังเป็นที ยอมรับในหมู่ปัญญำชนว่ำ พระพุทธศำสนำเป็นศำสนำที มีเหตุผลน่ำ และพยำยำมลบล้ำงควำมเป็นพุทธศำสนำในหน่วยงำนนั้นๆ ที นักกำรเมืองบำงคนเป็นรัฐมนตรี ดังที เป็นข่ำวใน
รับฟังมีคำสอนที ละเอียดลึกซึ้งประกอบกับในปัจจุบันกำรท่ำสมำธิหรือ Meditation ได้รับควำมสนใจจำกคน ปัจจุบัน
ทุกระดับในสังคมเพรำะเห็นว่ำอย่ำงน้อยก็เป็นวิธีผ่อนคลำยควำมตึงเครียด ซึ งมักเป็นปัญหำของคนในสังคมที
เจริญในด้ำนวัตถุแล้วแต่ละเลยทำงด้ำนกำรพัฒนำจิตใจ อนึ งในปัจจุบันชำวตะวันตกก่ำลังมีควำมวิตกกังวล พระพุทธศาสนากับการแก้ปัญหาทางการเมือง

อย่ำงมำกเกี ยวกับเรื องสภำพควำมเสื อมโทรมของธรรมชำติสิ งแวดล้อม และมีควำมรู้สึกซำบซึ้งประทับใจใน 1) พระพุทธศำสนำ ได้กล่ำวถึงอธิปไตย ไว้ถึง 3 แบบ คือ อัตตำธิปไตย โลกำธิปไตย ธรรมำธิปไตย โดย
หลักค่ำสอนของพระพุทธศำสนำซึ งเน้นกำรด่ำเนินชีวิตให้กลมกลืนกับธรรมชำติ ให้มีควำมเมตตำกรุณำต่อ ประกำรหลัง ธรรมำธิปไตยปกครองโดยเน้นธรรมะเป็นใหญ่ ให้ผู้น่ำมีธรรมะ(มุขบุรุษที ดี) และประชำชนมี
13
สรรพสัตว์ทั้งหลำยหลำยคนจึงเห็นว่ำ พระพุทธศำสนำเข้ำได้ดีกับอุดมกำรณ์ของคนที มีควำมเป็นห่วงต่อ ธรรมะ (สัมมำชน)
สถำนกำรณ์ของโลกปัจจุบัน” กลุ่มสมำคมสมถะในประเทศอังกฤษรำยงำนว่ำ “กำรสอนสมำธิแนวดั้งเดิมของ 2) พระพุทธศำสนำ เน้นเสรีภำพทำงจิตเป็นศำสนำแรกที ส่งเสริมสิทธิมนุษยชนมีสิทธิพิจำรณำคัดเลือก
ไทยคืออำนำปำนสติสมถะและวิปัสสนำที ลอนดอนได้รับควำมนิยมมำกปี พ.ศ.2548 มีกำรเปิดสอนปฏิบัติสมำธิ ผู้น่ำ มีสิทธิในด้ำนต่ำงอันไม่ก่อควำมเดือดร้อนสู่ตนเองและผู้อื น
ตำมที ต่ำงๆกว่ำ 20 แห่งทั วประเทศอังกฤษและยังมีที เวลส์แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกำด้วย.”นอกจำกนี้สำขำ 3) พระพุทธศำสนำ สอนให้รู้จักควำมพอดีในกำรปฏิบัติตน และกำรแก้ไขปัญหำต่ำงๆด้วยปัญญำ ในกำร
ของสมำคมที แคมบริจลอนดอนและแมนเซสเตอร์ มีควำมสัมพันธ์อย่ำงเหนียวแน่นกับแนวทำงปฏิบัติทำง ดำเนินตำมอริยสัจ 4 นักกำรเมืองควรนำไปปรับใช้ตำมเหตุสถำนกำรณ์นั้นๆ

พระพุทธศำสนำแบบไทยมำเป็นเวลำหลำยปี โดยมีสมำชิกหลำยท่ำนเดินทำงไปเมืองไทยเพื อปฏิบัติกรรมฐำน 4) พระพุทธศำสนำ สอนให้รู้จักควำมสุจริต ในกำรปฏิบัติตนสมควรแก่หน้ำที รู้กำล รู้เวลำ รู้หน้ำที ของ
ให้ลึกซึ้งยิ งขึ้นเป็นระยะในทำนองนี้ ควำมสัมพันธ์ที มีอยู่แล้วก็จะแน่นแฟ้ นยิ งขึ้นและท่ำให้ควำมสัมพันธ์ใหม่ ตน ปัญหำควำมยัดแย้งทำงกำรเมือง ควำมยัดแย้งทำงกำรเมืองที เป็นปัญหำสังคมอย่ำงหนึ งนั้นอำจจะมำจำก
พัฒนำต่อไป จำกหลักฐำนดังกล่ำวสะท้อนให้เห็นว่ำพระพุทธศำสนำทั้งฝ่ำยเถรวำทและฝ่ ำยมหำยำนที แผ่ สำเหตุห ลำยประกำร เช่น ผลประโยชน์ขัดกัน ควำมคิดเห็นไม่ตรงกัน กำรขำดอุดมคติทำงกำรเมืองที แน่นอน
ขยำยไปในทวีปยุโรปมีพัฒนำกำร และได้รับกำรตอบรับที ดีชำวยุโรปให้ควำมสนใจพระพุทธศำสนำในด้ำน เป็นต้น ในกำรแก้ปัญหำนี้ ตำมทัศนะของพุทธศำสนำแล้วนักกำรเมืองจะต้องมีธรรมะสำหรับนักบริหำร นัก

เนื้อหำเพื อนำมำใช้ในกำรดำเนินชีวิต ประยุกต์ใช้ในด้ำนฝึกปฏิบัติอบรมพัฒนำจิตปัญญำ และหลักกำรทำงพุทธ ปกครองซึ งพระพุทธองค์ได้แสดงว่ำ เป็นคุณสมบัติของนักปกครองหรือผู้บริหำรปรำกฏในพระคัมภีร์ศำสนำ
ศำสนำก็เข้ำได้ดีกับวัฒนธรรมแสวงปัญญำของชำวยุโรปเพรำะหลักกำรพุทธเน้นกำรใช้เหตุผล ให้อิสระทำง หลำยแห่งด้วยกัน แต่ในที นี้จะขอน่ำมำกล่ำวเฉพำะที ท่ำนได้แสดงไว้ในอรรถกถำอัฏฐกนิบำตอังคุตตรนิกำย มี
ควำมคิดไม่ผูกขำดทำงควำมคิดดังนั้นแม้ศำสนำพุทธจะเป็นสิ งใหม่สำหรับชำวยุโรป ยังไม่เป็นที แพร่หลำยขยำย ใจควำมว่ำผู้ปกครองหรือนักบริหำรนั้นจะต้องทำนุบ่ำรุงประชำรำษฏร์ด้วยหลักธรรมที เรียกว่ำรำชสังคหวัตถุ 5
วงกว้ำงทำงสังคมแต่ก็ค่อนข้ำงเข้ำกันได้กับภูมิปัญญำแบบฝรั ง มีคุณค่ำต่อชีวิตปัจเจกบุคคลและสิ งแวดล้อม จึง ประกำร คือ

อำจกล่ำวได้ว่ำสภำพกำรณ์ปัจจุบันของศำสนำพุทธในยุโรปเป็นช่วงของกำรเริ มต้นที ได้รับกำรยอมรับและมั นคง 1). สัสสเมธะ ฉลำดสำมำรถในกำรบำรุงเกษตรกรรมและกสิกรรมเป็นต้น อันเป็นธัญญำหำรให้เกิด
กำรไม่ได้รับปฏิเสธและต่อต้ำนนับเป็นโอกำสที ดีของพระพุทธศำสนำที จะเติบโตในแผ่นดินยุโรปต่อไป ผลผลิตที ดี มีกำ รส่งเสริมกำรเกษตรและกสิกรรมให้อุดมสมบูรณ์ อันจะเป็นประโยชน์พื้นฐำนที สำคัญยิ งในกำร
พัฒนำประเทศทำงด้ำนเศรษฐกิจ
ผลกระทบต่อสังคมไทย 2). ปุริสเมธะ ฉลำดสำมำรถในกำรบำรุงคน ส่งเสริมคัดเลือกคนมำท่ำงำนให้เหมำะสมกับควำมรู้

1) ในแง่ของปัจเจกบุคคล คนไทยย่อมประสบกับควำมไม่เชื อมั นในสถำนะของประเทศ ไม่ไว้ใจใน ควำมสำมำรถของ เขำและกำรงำนที จะท่ำนั้นๆพร้อมทั้งจัดสวัสดิกำรให้ดี เป็นต้น
ข้ำรำชกำรและนักกำรเมือง ในกำรบริหำรของคณะรัฐบำลและควำมมั นคงของประเทศ 3). สัมมำปำสะ ผูกประสำนสงเครำะห์ประชำชนพลเมืองบ่วงคล้องใจคน คือกำรดูแลสุขทุกข์ของ
2) ในแง่ของสังคม มุมมองโดยรวมของสังคมไทยย่อมไม่เป็นที ไว้วำงใจของชำวต่ำงชำติเท่ำที ควร ควำม ประชำชน ส่งเสริมอำชีพ เช่น จัดทุนให้คนยำกจนยืมไปสร้ำงตนในทำงพำณิชยกรรมหรือด่ำเนินกิจกรรมต่ำง ๆ
เชื อมั นในรัฐบำลโดยรวมก็ลดลงตำมลำดับ ไม่ให้เกิดควำมเลื อมล้ำหรือช่องว่ำงจนแตกแยกกัน ซึ งเป็นกำรทำให้จิตใจของประชำชนเลื อมใสในผู้ปกครอง

3) ในแง่ของเศรษฐกิจ กำรบริหำรด้ำนนโยบำยของรัฐบำลเป็นผลโดยตรงด้ำนเศรษฐกิจของประเทศ 4). วำชเปยยะ พูดจำด้วยถ้อยค่ำไพเรำะอ่อนหวำนดูดดื มใจ รู้จักพูดรู้จักชี้แจงแนะน่ำ รู้จักทักทำยถำม
หำกรัฐบำลวำงแนวนโยบำยผิดพลำด ต่ำงชำติขำดควำมเชื อมั นในรัฐบำล ย่อมเกิดเป็นวิกฤติเศรษฐกิจตำมมำ ไถ่ทุกข์สุขของประชำชนทุกชั้น ด้วยอัธยำศัยไมตรีที ดี ด้วยถ้อยค่ำที ประกอบด้วยเหตุผล ที เป็นหลักฐำนมีปร ะ
อย่ำงแน่นอน โยชน์เป็นทำงแห่งกำรสร้ำงสรรค์แก้ไขปัญหำเสริมควำมสำมัคคีท่ำให้เกิดควำมเข้ำใจดี ควำมเชื อถือและควำม

4) ในแง่ของศำสนำ ปัจจุบันก่ำลังเป็นปัจจัยหนึ งที จะก่อให้เกิดควำมขัดแย้งระหว่ำงศำสนำ อันเกิดจำก นิยมนับถือ
กำรพยำยำมแทรกแซงกิจกำรพระพุทธศำสนำ

13 พระสุตตันตปิฎก เล่ม 20 หน้ำ 186 , เล่ม11 หน้ำ 231