Page 39 - บทความวิชาการนานาชาติวารสารวิทยาลัยสงฆ์ปี60.
P. 39

111
                                                                 วิทยาลัยสงฆ์นครน่านฯ เฉลิมพระเกียรติฯ



    5). นิรัคคฬะ บริหำรประเทศชำติให้อยู่เย็นเป็นสุข โดยป้องกันและบ่ำรำบโจรผู้ร้ำย ให้ประชำชนนอนตำ  และวัตถุกำมต่ำง ๆ เป็นประเภทอำมิสสุข คือสุขที เจือด้วยอำมิสสิ งของ ควำมสุขทำงเศรษฐกิจก็จัดอยู่ใน
 หลับ โดย ยึดหลักกำรที ว่ำ "ควำมสุขของประชำชนคือยอดปรำรถนำของตน" และในทีฆนิกำยปำฏิกวรรคก็ได้  ควำมสุขประเภทนี้ เพรำะเป็นควำมสุขของกำรแสดวงหำและได้สิ งของมำบ่ำบัดควำมต้องกำร ส่วนโลกุตตรสุข
 แสดงไว้ว่ำ ผู้บริหำรหรือ นักปกครองที ดีนั้น เมื อปฏิบัติหน้ำที  พึงเว้นควำมล่ำเอียง (อคติ)หรือควำมประพฤติที   เป็นควำมสุขของผู้สิ้นกิเลสำสวะ และสำเร็จอรหัตผลแล้วเป็นควำมสุขที เที ยงแท้ ยั งยืน ไม่พัวพันอยู่กับวัตถุกำม
 คลำดเคลื อนจำกธรรม 4 ประกำร    หรืออำรมณ์กำมใดๆ เป็นประเภทนิรำมิสสุข หรือสุขไม่เจือด้วยอำมิส ซึ งเป็นควำสุขที เกิดขึ้นได้จำกกำรบรรเทำ

    1) ฉันทำคติ ล่ำเอียงเพรำะชอบ   ควำมต้องกำรหรือทะยำนอยำกเสียได้ เป็นควำมสุขที เกิดขึ้นจำกำกรให้เสียสละจะกล่ำวว่ำเป็นหลักเศรษฐกิจ
    2). โทสำคติ ล่ำเอียงเพรำะชัง    ชั้นสูงในทำงพุทธศำสนำก็ได้
    3). โมหำคติ ล่ำเอียงเพรำะหลงหรือเขลำ

    4). ภยำคติ ล่ำเอียงเพรำะขลำดกลัว นอกจำกนี้ มีควำมประพฤติดีเป็นแบบฉบับในกำรด่ำรงชีวิตของนัก     หลักของการพออยู่พอกินในพระพุทธศาสนา
 ปกครองเพรำะกำรปกครองที ดีคือ กำรให้แบบอย่ำงที ดี ควำมตรงควำมคดของนักปกครองมีอิทธิพลต่อควำม     1) ทิฏฐธัมมิกัตถะ ประโยชน์ปัจจุบัน หรือหลักสร้ำงควำมสำเร็จทันตำเห็น บำงทีท่ำนเรียกว่ำ หัวใจ
 ประพฤติของประชำชน ควำมซื อตรงของประชำชนขึ้นอยู่กับควำมซื อตรงของนักปกครอง กำรแก้ควำมคดของ  เศรษฐี (อุ.อำ.กะ.สะ.) อันเป็นคำสอนให้ตั้งเนื้อตั้งตัวได้ในทำง เศรษฐกิจ 4 ประกำร คือ ต้องมีควำมหมั น คือ มี
 ส่วนใหญ่จึงต้องเริ มมำจำกฝ่ำยปกครอง ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงบุคคล 2 ประเภทนี้ พระพุทธเจ้ำตรัสยกตัวอย่ำง  ควำมขยันหมั นเพียรในกำรปฏิบัติหน้ำที กำรงำน ประกอบอำชีพอันสุจริต รู้จักใช้ปัญญำควำมสำ มำรถจัดกำร

 ไว้ในโพธิรำชชำดก ขุททกนิกำยว่ำ "เมื อฝูงโคก่ำลังข้ำมแม่น้่ำ ถ้ำโคจ่ำฝูงไปคด โคนอกนั้นก็คดตำม ในหมู่มนุษย์  ด่ำเนินกำรไปให้ได้ผลดี ซึ งเป็นทำงให้ได้ทรัพย์ ข้อนี้ตรงกับหลักเศรษฐกิจข้อแรกคือ Production หลักผลิต
 ก็เช่นเดียวกันถ้ำผู้ได้รับสมมติให้เป็น หัวหน้ำเป็นผู้ปกครองไม่เป็นธรรม คนนอกนั้นก็ประพฤติไม่เป็นธรรม   กรรม
 ดังนั้นเมื อผู้ปกครองประพฤติไม่เป็นธรรม        2) ต้องกำรรักษำ คือต้องรู้จักเก็บคุ้มครองทรัพย์หน้ำที กำรงำนและผลงำนที ตนได้มำหรือได้ท่ำไว้ด้วย
 ชำวเมืองก็พลอยทุกข์กันไปทั วโดยนัยตรงกันข้ำม เมื อผู้ปกครองทรงไว้ซึ งธรรมชำวเมืองก็เป็นสุขกันไปทั ว"    ควำมขยันหมั นเพียรนั้นไม่ให้เป็นอันตรำยหรือเสื อมเสียโดยเฉพำะถ้ำเป็นทรัพย์ก็ต้องยิ งรู้จักเก็บออมข้อนี้ตรง

    วิกฤติด้ำนเศรษฐกิจ คนเรำเมื อเกิดมำแล้วจะสำมำรถด่ำเนินชีวิตประจ่ำวันไปได้อย่ำงมีควำมสุขควำม  กับหลัก Saving หลักเก็บออม
 เจริญ ตลอดทั้งประสบควำมส่ำเร็จในด้ำนต่ำงๆ ของชีวิตจ่ำเป็นต้องอำศัยเครื องอุปโภคบริโภคนำๆชนิดอย่ำง     3) ต้องเลือกคบคนดีเป็นเพื อน คือ เลือกคบแต่สุหทมิตร ได้แก่ มิตรแท้ เพื อนจริง ที มีอุปกำรคุณ สมำน
 น้อยก็ต้องอำศัยปัจจัยสี  คือ อำหำร เสื้อผ้ำ ที อยู่อำศัย และยำรักษำโรคและก็ต้องมีอย่ำงเพียงพอที เรียกว่ำ อยู่  สุขทุกข์ แนะน่ำประโยชน์ให้และมีควำมรักใคร่จริงใจ ถ้ำดำเนินธุรกิจเป็นบริษัทหรือสหกรณ์ ก็จ่ำเป็นต้องเลือก
 ดีกินดีถ้ำแต่ละคนมีกำรอยู่ดีกินดี ก็ย่อมจะท่ำให้สังคมมีควำมมั นคง แต่ถ้ำแต่ละคนซึ งเป็นสมำชิกของสังคม  สมำชิกที ดี ตรงกับหลัก Cooperation หลักสหกรณ์

 ส่วนใหญ่มีควำมเดือนร้อนในเรื องกำรกินดีอยู่ดี ก็ย่อมจะเป็นสำเหตุน่ำควำมอ่อนแอมำ สู่สังคม สังคมย่อมมีแต่     4) ต้องมีควำมเป็นอยู่เหมำะสมคือรู้จักก่ำหนดรำยได้และรำยจ่ำยเลี้ยงชีวิตแต่พอดีมิให้ฝืดเคืองหรือ
 ควำมเดือดร้อน เป็นหนี้เป็นสินกันมำก มีกำรท่ำผิดกฏหมำยบ้ำนเมืองมีโจรผู้ร้ำยมำกขึ้นปรำกฎกำรณ์ทำงสังคม  ฟุ่มเฟือย ตรงกับหลัก Household Budgetงบประมำณประจำบ้ำนหรือกำรวำงแผนกำรใช้จ่ำยประจำครอบ
 เช่นนี้ สำเหตุที แท้จริงก็เนื องมำจำกปัญหำเศรษฐกิจ อันเป็นปัญหำที ส่ำคัญยิ งในชีวิตประจ่ำวันของมวลมนุษย์   ครัว นั นเอง กำรเว้นจำกอบำยมุข (เหตุย่อยยับแห่งโภคทรัพย์) 4 ประกำร คือ

 ซึ งมนุษย์ต้องดิ้นรนในแต่ละวันก็ไม่ใช่อื นไกลก็เพื อปำกเพื อท้องที เรียกว่ำ ท่ำมำหำกินนั งเอง       1) จำกควำมเป็นนักเลงหญิงนักเที ยวผู้หญิง (แม้แต่นักเลงชำย)
                  2) เว้นจำกควำมเป็นนักเลงสุรำนักดื มนักเสพยำเสพติดประเภทต่ำง ๆ
    พุทธศาสนากับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ดังได้กล่ำวมำแล้วว่ำ จุดประสงค์ของเศรษฐกิจนั้น ก็เพื อ     3) เว้นจำกควำมเป็นนักเลงเล่นกำรพนัน
 บ่ำบัดหรือสนองควำมต้องกำรของมนุษย์ให้เกิดควำมมั  งคั งสมบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์ หรือจะกล่ำวอย่ำง  ง่ำย ๆ      4) เว้นจำกกำรคบคนชั วเป็นมิตรสหำย ต้องด่ำเนินตำมกุลจิรัฏฐิติ เหตุที ท่ำให้
 ก็เพื อให้ประชำชนมีกำรอยู่ดีกินดี หรือมีมำตรฐำนในกำรครองชีพสูงขึ้น ในทำงเศรษฐกิจถือว่ำ ยิ งมีกำรอยู่ดีกิน     ตระกูลมั งคั งด่ำรงอยู่ได้นำน 4 ประกำร คือ

 ดีด้วยเครื องอุปโภคบริโภคมำกเพียงใด ชีวิตย่อมมีควำมสุขและสะดวกสบำยมำกเพียงนั้น และเชื อว่ำ เมื อมี     1) ของหำย รู้จักเสำะแสวงหำคืนมำ
 สินค้ำ และมีกำรบริกำรที ผลิตได้ให้แก่ประชำชนโดยทั วถึงมำกยิ งขึ้น ประชำชนก็จะมีควำมสุขและควำมเป็นอยู่     2) ของเก่ำของชำรุด รู้จักบูรณะซ่อมแซม
 ดีขึ้น ควำมสุขดังกล่ำวจึงกล่ำวได้ว่ำเป็นควำมสุขในด้ำนวัตถุ จะกล่ำวว่ำควำมมุ่งหมำยของเศรษฐกิจก็เพื อจะ     3) รู้จักประมำณควำมพอดีในกำรกินกำรใช้

 สร้ำงควำมสุขใจด้ำน วัตถุให้แก่มนุษย์นั นเอง ก็ย่อมเป็นกำรถูกต้องพุทธศำสนำก็มีควำมมุ่งหมำยที จะสร้ำง     4) พ่อบ้ำนแม่บ้ำนเป็นผู้มีศีลธรรม เพียงเท่ำนี้ ก็สำมำรถแก้ปัญหำเศรษฐกิจส่วนบุคคลหรือครอบครัวได้
 ควำมสุขให้แก่มนุษย์เช่นเดียวกัน แต่พุ ทธศำสนำแบ่งควำมสุขออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ โลกิยสุข   เมื อแก้ที บุคคลหรือครอบครัวได้ ก็ชื อว่ำแก้ปัญหำเศรษฐกิจของปร ะเทศชำติได้ หลักกตัญญุตำ คือ ควำมรู้จัก
 และโกุตตรสุข โลกิยสุข เป็นควำมสุขของปุถุชนหรือฆรำวำสผู้ครองเรือน เป็นควำมสุขที พัวพันกับทรัพย์สมบัติ   ประมำณตนหรือรู้จักควำมพอดีในกำรแสวงหำทรัพย์ในทำงที ชอบไม่โลภมำกจนเกินไป และเมื อหำมำได้แล้วก็
   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44