Page 43 - บทความวิชาการนานาชาติวารสารวิทยาลัยสงฆ์ปี60.
P. 43
115
วิทยาลัยสงฆ์นครน่านฯ เฉลิมพระเกียรติฯ
ภาวะผู้น าที่พึงประสงค์ตามหลักพุทธธรรม พุทธเจ้ำนั้น เกี ยวข้องกับผู้น่ำที สำมำรถน่ำมำประยุกต์ใช้ได้ หลักผู้น่ำทำงพระพุทธศำสนำที ส่ำคัญได้แก่หลัก 2
The Good Leadership Followed in Buddhist Principles ประกำรคือ
1) หลักผู้น่ำจำกพระพุทธศำสนำประกำรแรก คือบทบำทของผู้น่ำกับกำรสื อสำรโดยเฉพำะอย่ำง
พระครูโสภณวีรำนุวัตร ยิ งในสถำนกำรณ์ปัจจุบัน ไม่ว่ำจะจำกปัญหำทำงด้ำนกำรเมือง เศรษฐกิจ ผู้น่ำขององค์กรต่ำง ๆ ต้องให้
หน่วยวิทยบริการวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จังหวัดสุพรรณบุรี ควำมส่ำคัญกับกำรสื อสำรทั้งภำยในและภำยนอกองค์กร โดยผู้บริหำรต้องใช้หลักกัลยำณมิตรธรรมหรือธรรม
ของกัลยำณมิตร 7 ประกำร คือ วัตตำ หรือเป็นผู้รู้จักพูด โดยกำรที จะเป็นนักพูดที ดีนั้นต้องพูดให้ผู้อื นสำมำรถ
บทคัดย่อ เข้ำใจได้ พูดให้ผู้อื นได้ประโยชน์ หรือพูดให้ผู้อื นช่วยกันสร้ำงสรรค์ประโยชน์ ไม่ใช่กำรพูดเพื อหำประโยชน์
ให้แก่ตนเอง โดยพระพุทธเจ้ำได้ทรงแสดง ลักษณะของนักสื อสำร หรือนักพูดที ดีไว้ 4 ประกำรด้วยกัน ได้แก่
ผู้น่ำของประเทศของโลกที ยิ งใหญ่เกรียงไกรไปด้วยควำมสำมำรถปัญญำเฉียบแหลมจะมีประโยชน์ พูดแจ่มแจ้ง(อธิบำยให้เข้ำใจได้ชัดเจน) พูดจูงใจ(พูดจนคนยอมรับและอยำกจะลงมือท่ำ) พูดเร้ำใจ(พูดให้เกิด
อะไรถ้ำขำดสติหรือเสียสติ และไม่ยึดหลักธรรมในกำรปกครองบริหำรประเทศควำมส่ำเร็จที ได้มำไม่ว่ำยุคใด ควำมคึกคัก กระตือรือร้น) และพูดให้ร่ำเริง(พูดให้เกิดควำมร่ำเริง มีควำมหวัง ในผลดีและทำงที จะส่ำเร็จ) กำร
สมัยใด ถ้ำขำดองค์ประกอบดังกล่ำวนี้จะเป็นควำมส่ำเร็จที ไม่ยั งยืนย่อมสำมำรถเสื อมสลำยได้ ยิ งเจริญสูงส่ง เป็นผู้รู้จักพูดตำมหลักกำรข้ำงต้น สำมำรถน่ำมำปรับใช้กับกำรพูดเนื องในโอกำสต่ำง ๆ ไม่จ่ำเป็นแต่ต้องเป็น
ทำงด้ำนวัตถุขึ้นเท่ำใด ก็ยิ งมีโอกำสเสื อมสลำยเร็วขึ้นเท่ำนั้น หำกภำวะผู้น่ำของผู้ใดดีอันพึงประสงค์ น่ำสังคม กำรพูดของผู้น่ำเท่ำนั้น แม้กระทั งครูบำอำจำรย์ที สอนหนังสือเอง ก็ต้องรู้จักพูดให้ชัดเจน จูงใจ เร้ำใจ และ ร่ำ
มนุษย์ให้ด่ำรงอยู่ในหลักพุทธธรรม ก็สำมำรถแก้ปัญหำควำมขัดแย้งของสังคมมนุษย์ได้ เพรำะหลักพุทธธรรม เริง เพื อให้ผู้เรียนได้มีควำมเข้ำใจ กระตือรือร้น และสนใจที จะเรียนหนังสือ ส่ำหรับตัวผู้น่ำ นอกเหนือจำกกำร
นั้นจะด่ำเนินกำรแก้ปัญหำควำมขัดแย้งในสังคมมนุษย์ ด้วยเหตุผลและสติปัญญำอย่ำงยั งยืน
รู้จักที จะพูดแล้วยังต้องรู้จักที จะฟังด้วย โดยท่ำนใช้ค่ำว่ำ วจนักขโม แปลว่ำควรทนหรือฟังต่อถ้อยค่ำของคนอื น
ค าส าคัญ: ภำวะผู้น่ำพึงประสงค์, หลักพุทธธรรม ด้วย ไม่ใช่ว่ำเอำแต่พูดแก่เขำอย่ำงเดียวโดยไม่ยอมรับฟังใคร ซึ งกำรเป็นผู้ฟังที ดีนั้นถือเป็นสิ งที ยำกและท้ำทำย
ส่ำหรับผู้น่ำหลำยๆ ท่ำน เนื องจำกผู้น่ำจ่ำนวนมำกมักจะชอบพูดมำกกว่ำฟัง โดยเฉพำะกำรรับฟังจำกผู้ที ต่ ำ
Abstract กว่ำหรือเป็นลูกน้อง นอกจำกนี้ ยังมีหลักธรรมว่ำไว้ว่ำ คัมภีรัญจะ กะถัง กัตตำ แปลว่ำรู้จักแถลงเรื องรำวต่ำง
The great leaders of the great countries of the world can be deteriorated up to now, if ๆ ที ลึกซึ้ง โดยประเด็นหรือเรื องรำวต่ำง ๆ ที ส่ำคัญ ก็ต้องสำมำรถอธิบำย ท่ำให้ผู้ที ร่วมงำนมีควำมเข้ำใจ
they lack of consciousness and ignore Buddhist principles as good governance. 2) หลักผู้น่ำจำกพระพุทธศำสนำประกำรที สอง คือหลักพรหมวิหำร 4 ประกำร ซึ งถือเป็น
The lack of following Buddhist principles causes degeneration, therefore, the success คุณธรรมพื้นฐำนที ผู้บริหำรจะต้องมีอยู่ประจ่ำในจิตใจ เพื อน่ำไปสู่กำรแสดงออกที ดีและเหมำะสม ส่ำหรับตัว
terms to unsustainable, the more civilized the cities are, the more mental degeneration we ผู้น่ำ ถ้ำสำมำรถแสดงออกได้อย่ำงดีและเหมำะสมแล้ว ก็จะน่ำไปสู่ศรัทธำจำกบุคคล ต่ำง ๆ ในองค์กร และท่ำ
get. Hence, good leadership with Buddhist principles bring about pleasant societies and ให้สำมำรถน่ำพำทุกคนไปในทิศทำงเดียวกันได้ พรหมวิหำร 4 นั้นประกอบด้วย เมตตำ ควำมเป็นมิตรไมตรีต่อ
solution of every social problems as well. This is definitely, Buddhist principle is the process ผู้อื น มีน่้ำใจ ปรำรถนำดีต่อผู้อื น กรุณำ คือ ควำมต้องกำรช่วยเหลือให้ผู้อื นพ้นจำกควำมทุกข์ ควำมเดือดร้อน
of solving problems and conflicts with wisdom. โดยเมื อผู้อื นมีทุกข์นั้นผู้น่ำจะต้องมีกรุณำ ช่วยบ่ำบัดทุกข์ให้ มุทิตำ คือ เมื อพนักงำน เพื อนร่วมงำนมีควำมสุข
ควำมส่ำเร็จมำกขึ้น ผู้น่ำก็จะต้องพลอยยินดี ช่วยส่งเสริมสนับสนุน และสุดท้ำย คือ อุเบกขำ คือ กำรรักษำ
Keywords: Good Leadership, Buddhists Principle ควำมเป็นกลำง ไม่ล่ำเอียง ไม่เข้ำข้ำงใดข้ำงหนึ ง หลักพรหมวิหำรสี นั้นเป็นสิ งที ผู้น่ำควรจะยึดเป็นหลักธรรมใน
กำรบริหำรงำนเป็นระจ่ำวันทั วไป โดยเฉพำะกับผู้อื น ไม่ว่ำจะเป็นเพื อนร่วมงำน ลูกน้อง หรือผู้มีส่วนเกี ยวข้อง
บทน า ต่ำง ๆ กับองค์กร โดยเมื อบุคคลอื นมีปัญหำ มีทุกข์ เดือดร้อน ผู้น่ำก็ต้องมีควำมกรุณำที จะแก้ไขปัญหำ ใน
กำรปกครองและบริหำรที ดีนั้น ผู้น่ำจะต้องมีควำมเป็นภำวะผู้น่ำที ดีทุกด้ำน โดยมี “ประมุขศิลป์” ขณะเดียวกัน เมื อบุคคลอื นประสบควำมส่ำเร็จ มีควำมสุข ก็ต้องมีมุทิตำ ที จะช่วยส่งเสริมสนับสนุน และยินดี
คือ คุณลักษณะควำมเป็นผู้น่ำที ดี (Good Leadership) อันเป็นคุณสมบัติที ดีที ส่ำคัญ ในควำมส่ำเร็จของผู้อื น ในช่วงสถำนกำรณ์ปกตินั้นก็ต้องคอยดูแล เอำใจใส่ให้บุคคลต่ำง ๆ ในองค์กรมีควำมสุข
หลักทำงพระพุทธศำสนำนั้นเป็นสิ งที ทันสมัย เป็นวิทยำศำสตร์ และสำมำรถน่ำมำปรับใช้ได้กับกำร ในกำรท่ำงำน และสุดท้ำย ในกำรบริหำรงำนทุกอย่ำงผู้น่ำจะต้องมีและสำมำรถรักษำควำมเป็นกลำง ไม่ล่ำเอียง
ด่ำรงชีวิต และกำรท่ำงำนในปัจจุบัน โดยเฉพำะเรื องของภำวะผู้น่ำหลักธรรมค่ำสั งสอนขององค์พระสัมมำสัม
เข้ำข้ำงใดข้ำงหนึ ง ซึ งหลักของอุเบกขำนั้นจะคุมเมตตำ กรุณำ มุทิตำ ไว้อีกด้วย โดยกำรปฏิบัติหรือช่วยเหลือ
ผู้อื นนั้น ก็จะต้องมีควำมเป็นกลำง ไม่ล่ำเอียง ปัจจุบันเรำรับอิทธิพลในแนวคิดทำงด้ำนกำรบริหำรจำกโลก