Page 18 - เสวนามโนทัศน์ที่คาดเคลื่อนในการวิจัย
P. 18
่
็
ี
ิ
ื
ิ
ปรบแก้ไขข้อมูลเผอให้ผลการวจัยสอดคล้องกับสมมตฐานทตั้งไว้เพราะฉะนั้น ถ้าผลการวิจัยไม่เปนไปตาม
่
ั
ิ
ิ
สมมตฐาน ก็แค่อภปรายผลเพราะงานวิจัยทุกงานมคุณค่า
ี
รศ.ดร.ปกรณ ประจัญบาน :
์
ี
ิ
็
ประเดนน้จะท าให้การอภปรายผลนั้นมคุณค่า ถ้าเราเขียนอภปรายผลไม่ว่าผลนั้นจะเปนอย่างไรก็
็
ิ
ี
ี
่
ี
่
ิ
่
ี
ี
ิ
ตามทดต้องน าไปสการให้ข้อเสนอแนะในการวจัยเพราะฉะนั้นในการวจัยอย่างทท่าน อาจารย์สมบัตได้เรยน
ู
ิ
ิ
ิ
็
ู่
ี
ไป มันจะน าไปสการให้ข้อเสนอแนะ ถ้ามันไม่เปนไปตามสมมตฐานก็เสนอแนะได้ทันทว่ามันต้องเกด
่
็
ู
ิ
อะไรสักอย่างซงเราต้องเรยนรต่อไปหรอในทางตรงข้ามงานวิจัยเปนไปตามสมมตฐานมันก็มบางอย่างท ี่
ี
ึ
ี
ื
้
ิ
ี
ให้ผลดให้ผลระดับปานกลางตรงน้เราสามารถน าไปให้ผลอภปรายทดได้
ี
ี
ี
่
ื
้
รศ.ดร.สมบัติ ทายเรอค า :
ี
ิ
ิ
็
สมมตว่ามการทดสอบอยู่ 5 ด้าน5 ตัวแปรปรากฏว่า 1,2,3 เปนไปตามสมมตฐาน แต่ 4 และ 5ไม่
ั
เปนไปตามสมมตฐาน เราก็น าสองด้านน้ไปน าเสนอแนะในข้อเสนอแนะการท าวจัยคร้งตอไป
่
ิ
ี
็
ิ
ิ
ั
รศ.ดร. ปยะธิดา ปญญา :
ี
ิ
่
ี
็
้
ิ
ถ้าเราตั้งสมมตฐานไว้ว่าเพือเปรยบเทยบผลสัมฤทธทางการเรยนเปนเกณฑ์สมมตว่ารอยละ70 และ
ิ
์
ี
ื
้
่
ิ
ิ
่
ื
่
ื
ใช้เครองมอวัดโดยใช้แบบทดสอบแตแบบทดสอบนั้นหาคุณภาพแบบองกลุม ผดรายแรงมากหรอไม่
รศ.ดร.สมบัติ ทายเรอค า :
ื
้
็
ี่
็
ุ
้
ุ
เปนความเข้าใจผิดของผู้วิจัยเพราะเปนการตอบทผิดๆ จดประสงค์การสรางวิจัยกับจดประสงค์การ
ื
่
ุ
็
ื
็
้
ื
ื
สรางเครองมอคนละอย่าง เครองมอขึ้นอยูกับว่าจดประสงค์อะไรในการแยกเดกจ าแนกเดกถ้าเครองมอมา
่
ื
ื
่
่
่
ี
ิ
ิ
ี
ื
ุ
เพื่อพัฒนาผู้เรยนเปนข้อสอบองกลุ่มหรอองเกณฑ์ขึ้นกับผู้วจัยว่าคุณก าลังท าอะไรไม่เกยวกับจดประสงค์
ิ
็
ื
้
ิ
้
้
ิ
ื่
ื่
การวิจัย คนละประเด็นกันถ้าสรางเครองมอเพื่อหาคุณภาพแบบองกลุ่มก็สรางเครองมอแบบองกลุ่มถ้าสราง
ื
เครองมอแบบองเกณฑ์คุณก็หาแบบองเกณฑ์ แล้วเอาไปตอบวัตถุประสงค์
ื่
ื
ิ
ิ
ผศ.ดร.ไพศาล วรค า :
ู
่
ุ
ี
ิ
้
่
่
ู
ี
ั
ในการจัดการเรยนรในปจจบันมการใช้แบบทดสอบทั้งทเปนองกลุมและองเกณฑ์ ครทสอนไปแล้ว
็
ี
ี
ิ
สดท้ายแล้วก็ต้องไปประมวลผลเพือตัดเกรด เพือแยกเดกว่าใครเก่งกว่าใครก็หาคุณภาพตามเครองมอทใช้วัด
่
ื
่
ี
่
่
ุ
็
ื
ี
์
่
รศ.ดร. ทรงศกดิ ภูสออน :
ั
กระบวนการในการท าวิจัย R & D ในการรางตัวรปแบบหรอนวัตกรรมใช้ข้อมูลจากการทบทวนกับ
ู
ื
่
ั
์
ึ
ี
การสัมภาษณอย่างเดยวได้ไหมโดยไม่มการศกษาสภาพปญหา
ี
์
รศ.ดร.ปกรณ ประจัญบาน :
ั
ี่
ต้องดทเจตนารมในการท า R & D งานวิจัยทมุ่งเน้นการแก้ไขปญหา มงานวิจัยประเภท R & D
ี่
ู
ี
ี่
ั
ิ
หลายประเภททผู้วิจัยอาจจะไม่ได้เข้าใจเจตนารมจรงๆไม่มปญหาทุกอย่างดหมดแค่อยากจะท านวัตกรรมแบ
ี
ี