Page 8 - เสวนามโนทัศน์ที่คาดเคลื่อนในการวิจัย
P. 8
่
ี
ิ
ี
ิ
ิ
ิ
การใช้ค่าสถตพื้นฐานไปตอบสมมตฐานมันไม่ถูก เพราะฉะนั้นวธการทถูกต้อง ก็คือ การตั้งสมมตฐานนั้น
ิ
สามารถทดสอบด้วยการใช้สถตอ้างองไหมนั้นเอง
ิ
ิ
ิ
์
รศ.ดร.ปกรณ ประจัญบาน :
ิ
่
ี
ี
สมมตฐานไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การวิจัยเลย เชน วัตถุประสงค์การวิจัย คือ การเปรยบเทยบ
ิ
์
ี
ผลสัมฤทธทางการเรยนระหว่างก่อนเรยนกับหลังเรยน
ี
ี
ิ
ิ
ี
ู
็
้
ิ
์
ี
ี
สมมตฐานการวจัย ผลสัมฤทธทางการเรยนหลังเรยนสงกว่าก่อยเรยน รอยละ 70 เปนต้น งานวิจัย
ี
ประเภทน้นากลัว เนองจากผู้วจัยไม่ได้สนใจ ไม่ได้ตรวจสอบ ตนเองไม่มความเข้าใจในงานวจัยน้เลย
ี
ิ
ิ
่
ื
ี
่
การตังสมมติฐานแบบมีทศทาง หรอไมมีทศทางนัน ขึ้นอยูกับองค์ความรทเราทบทวนมาจาก
่
ื
ู
่
ิ
้
้
้
ิ
ี
่
วรรณกรรม แต่ถ้าสมมตว่างานวิจัยทเราก าลังจะน าเสนอนวัตกรรมทจะน าไปส้การแก้ปญหา เชน เปน
ี่
ี่
ู
ิ
ั
่
็
์
ู
่
ิ
ี
นวัตกรรมทเราจะน าไปสการเพิ่มผลสัมฤทธทางการเรยน ซงเรามั่นใจมากว่านวัตกรรมนั้นผ่านกระบวนการ
ี่
่
ื
ิ
ี
ตรวจสอบคุณภาพอย่างดแล้วเมอถูกน าไปใช้ จะสามารถเพิ่มผลสัมฤทธทางการเรยนได้ โดยสามารถอ้างอง
่
์
ี
ิ
ี
ิ
ี
่
ื
ี
่
ื
ิ
็
่
ี
จากหลักคิดตามทฤษฎตาง ๆ ทเรายึดถอ การตั้งสมมตฐานก็ควรจะเปนพื้นฐานทมทศทางชัดเจน หรอว่า
์
็
ื
ภายหลังการใช้นวัตกรรมแล้ว ผลทเกดขึ้นไม่ว่าจะเปนผลสัมฤทธหรอสมรรถนะใดก็ตามทเราก าลังพัฒนา
ิ
่
ี
ี
่
ิ
อยูควรจะดขึ้นกว่าก่อนทราใช้
่
ี
่
ี
นั้นก็คือสมมติฐานแบบมีทศทาง ถ้าการตั้งแบบไม่มทศทางนั้น อาจตความได้ว่าไม่เข้าใจในเนอง
ื
ี
ิ
ี
่
ิ
ิ
ิ
่
มโนทัศนของการตั้งสมมตฐาน ทั้ง ๆเจตนารมณของผู้วจัยต้องการพัฒนานวัตกรรมเพือเอาไปเพิ่มส่งเรานั้น
์
์
ิ
็
ี
รศ.ดร. ทรงศักด ภูสอ่อน สรปได้ว่า สมมตฐานไม่จ าเปนต้องมจ านวนข้อเท่ากับวัตถุประสงค์ เอาเฉพาะข้อท ี่
ี
ุ
ิ
์
ิ
ิ
ิ
ี
ิ
่
ี
ี
ี
ิ
ิ
เรามการทดสอบทางสถต และไม่ต้องมค าว่า “ อย่างมนัยส าคัญทางสถต” ตอท้าย ควรจจะตั้งแบบมทศทาง
ี่
ี่
ี่
ึ
ทส าคัญคือจะต้องมทมาทไปจากการทบทวนวรรณกรรม ศกษาเอกสารและงานวิจัยทเกยวข้อง
ี่
ี่
ี
้
ื
เพิ่มเติมจาก รศ.ดร.สมบัติ ทายเรอค า :
ี
ิ
่
ในเรองของนยามในการนยามศัพท์ในเรองทเราเข้าใจกันตรงแล้ว เชน นักเรยน คร แต่ถ้าผู้บรหาร
ู
ื่
ิ
ิ
ี่
ื่
การศกษา หมายถง ผู้อ านวยการโรงเรยน รองผู้อ านวยการ หัวหน้าหมวด ต้องนยามเพื่อสรางความเข้าใจ
ิ
ี
ึ
ึ
้
ึ
ึ
ิ
่
ี
ิ
ิ
ให้ตรงกัน การนยามศัพท์ต้องนกถงเสมอว่าส่งไหนทเข้าใจตรงกันไม่ต้องนยาม
ค าถามจาก รศ.ดร.ปกรณ ประจัญบาน :
์
่
ื
ี
็
ิ
ื
่
ี
่
ิ
สมมตว่าพบงานวิจัยอยูสองเรอง เรองแรก เปนงานวจัยเกยวการพัฒนานวัตกรรมของนักเรยนชั้น ป.
่
่
ื่
ิ
ื่
5และอกเรองพัฒนานวัตกรรม ส าหรบนักเรยนทมความบกพรองทางสมอง เรองไหนควรนยามเรองไหนไม่
ี่
ั
ี
ื่
ี
ี
ิ
ควรนยาม