Page 227 - โครงการระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของอุตสาหกรรม
P. 227
รายงานฉบับสมบูรณ์ (Final Report) โครงการระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของอุตสาหกรรม
การที่ปัจจัยหนึ่งๆ จะมีความสัมพันธ์กับระดับศักยภาพในการแข่งขันของอุตสาหกรรมเชิงพื้นที่ในแบบเส้น
โค้งพาราโบลาแบบเชิงบวกหรือเชิงลบได้นั้น เกิดจากการที่ปัจจัยนั้นๆ ส่งผลกระทบต่อศักยภาพในการแข่งขันของ
อุตสาหกรรมเชิงพื้นที่ทั้งด้านบวกและด้านลบพร้อมกัน การเปลี่ยนแปลงปริมาณของปัจจัยดังกล่าวจึงมีทิศทางของ
ผลกระทบที่ไม่แน่นอน ดังแสดงด้วยภาพที่ 7.2-5 และ 7.2-6
7.2.5 การจ าแนกกลุ่มของปัจจัย
ค่าน้ าหนักของปัจจัยที่มีผลต่อศักยภาพในการแข่งขันของอุตสาหกรรมเชิงพื้นที่ ก าหนดจากระดับ
ความสัมพันธ์ของปัจจัยต่างๆกับศักยภาพในการแข่งขันของอุตสาหกรรม ตัวแปรที่มีความสัมพันธ์กับศักยภาพมาก
จะมีค่าน้ าหนักมาก
จากปัจจัยทั้งหมดน ามาสู่การพิจารณาหาค่าน้ าหนักของแต่ละปัจจัย โดยค านวณหาค่า
ความสัมพันธ์ของตัวแปร ตัวแปรที่มีความสัมพันธ์กันมากจะมารวมอยู่ในปัจจัยเดียวกัน ซึ่งจากกระบวนการนี้น ามา
สู่การค านวณหาค่าน้ าหนักของปัจจัยจากสัดส่วนของแต่ละปัจจัยในปัจจัยเดียวกันนั้นได้โดยกระบวนการนี้เรียกว่า
การวิเคราะห์องค์ประกอบ (Factor Analysis) ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือน้ าหนักองค์ประกอบ (Factor Loading) ของปัจจัย
ต่างๆ ซึ่งสามารถน ามาค านวณหาค่าน้ าหนักของปัจจัยต่อไปได้
โดยการค านวณหาค่าน้ าหนักปัจจัยจากน้ าหนักองค์ประกอบที่ได้จะไม่น าเครื่องหมายมาพิจารณา
ด้วย เพราะฉะนั้นในบางปัจจัยที่เมื่อได้ผลลัพธ์น้ าหนักองค์ประกอบออกมาเป็นเครื่องหมายลบ จึงมีวิธีการที่ท าให้
การคิดค่าน้ าหนักนั้นไม่ค านึงถึงเครื่องหมายโดยแบ่งเป็น 2 วิธีคือ วิธีการคิดค่าน้ าหนักโดยใช้ค่าสัมบูรณ์และวิธีการ
คิดค่าน้ าหนักโดยใช้การยกก าลังสองของค่าน้ าหนักองค์ประกอบซึ่งมีรายละเอียดแต่ละวิธีดังนี้
1) วิธีค่าสัมบูรณ์ จะวิเคราะห์โดยการน าค่าที่ได้จากน้ าหนักองค์ประกอบมาท าให้เป็นค่า
สัมบูรณ์ แล้วรวมค่าน้ าหนักทุกปัจจัยซึ่งคิดเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ของปัจจัยทั้งหมดและค านวณค่าน้ าหนักของแต่ละ
ปัจจัยจากสัดส่วนของปัจจัยนั้นๆ จากค่าน้ าหนักรวม
2) วิธียกก าลังสอง จะวิเคราะห์จากการน าค่าที่ได้จากน้ าหนักองค์ประกอบมายกก าลังสอง
แล้วก าหนดให้ผลรวมของค่าน้ าหนักยกก าลังสองเป็น 100 เปอร์เซ็นต์และค านวณค่าน้ าหนักของแต่ละปัจจัยจาก
สัดส่วนของปัจจัยนั้นๆ จากค่าน้ าหนักรวมซึ่งค่าน้ าหนักที่ได้จากวิธีการยกก าลังสองนี้ ปัจจัยที่มีค่าน้ าหนัก
องค์ประกอบมากจะได้ค่าน้ าหนักของปัจจัยในวิธีนี้มากกว่าวิธีหาจากค่าสัมบูรณ์ ส่วนปัจจัยที่มีค่าน้ าหนัก
องค์ประกอบน้อยจะได้ค่าน้ าหนักของปัจจัยน้อยกว่า ซึ่งวิธียกก าลังสองนี้เป็นการท าให้ปัจจัยที่มีน้ าหนัก
องค์ประกอบมาก มีค่าน้ าหนักของปัจจัยมากขึ้น
ซึ่งเมื่อพิจารณาจากความเหมาะสมในด้านการน าแบบจ าลองไปใช้ปฏิบัติงานจริง จึงเสนอค่า
น้ าหนักจากวิธียกก าลังสองเป็นค่าน้ าหนักปัจจัยที่จะใช้ในการด าเนินงานวิจัยต่อไป
อย่างไรก็ตามการหาค่าน้ าหนักของปัจจัยแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ประกอบด้วย
ส านักงานศูนย์วิจัยและให้ค าปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หน้า 7 - 9