Page 64 - ลูกเสือ กศน. สค32035
P. 64

51





                                ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2431 ไดไปปราบชนเผาซูลู ซึ่งมีหัวหนาชื่อ ดินีส ซูลู ในแอฟริกาใต
                  สําเร็จ เขาไดนําประสบการณบางอยางในครั้งนี้ มาใชในกิจการลูกเสือดวย ไดแก บทเพลงอินกอน

                  ยามา
                                (หัวหนา)  อิน  กอน  ยา  -  มา              กอน – ยา – มา

                                (ลูกคู)      อิน – วู – ยู                 ยาโบห  ยาโบห  อิน – วู – ยู
                                (หัวหนา)

                                (ลูกคู)

                                สรอยคอของดินิส ซูลู ทําดวยไมแกะเปนทอนเล็ก ๆ ซึ่งตอมา บี.พี. ไดนํามาเปน

                  บีดเครื่องหมายวูดแบดจ สําหรับผูที่ผานการอบรมผูบังคับบัญชาลูกเสือขั้นความรูชั้นสูง
                                ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2432 ที่เกาะมอลตา บี.พี. ไดรับแตงตั้งเปนผูชวยทูตทหาร

                  ทําหนาที่เปนทหารสืบราชการลับ
                                ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2438 ทําการรบกับเผาอาซันดิ ซึ่งมีกษัตริยชื่อวา คิงเปรมเปห

                  และไดรับชัยชนะ เหตุการณครั้งนี้ บี.พี. ไดประสบการณดังตอไปนี้
                                        1) การบุกเบิก เชน การโคนตนไม การทําสะพาน การสรางคายพัก

                                        2) ทดลองการแตงกายของตนเอง ใชหมวกปกแบบโคบาล จนไดรับฉายา

                  จากพวกพื้นเมืองวา คัมตะไค แปลวา คนสวมหมวกปกกวาง
                                        3) ประเพณีการจับมือซาย จากการแสดงความเปนมิตรของคนพื้นเมือง

                                ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2439 พวกมาตาบิลี ซึ่งเปนเผาหนึ่งของซูลู เดิมอยูในทรานสวาล
                  และถูกพวกบัวรขับไล จึงอพยพไปอยูในมาติบีลีแลนด (ปจจุบันเรียกโรดิเซีย) พวกมาตาบิลี

                  กอการกบฏรัฐบาลอังกฤษจึงสั่งทหารไปปราบ บี.พี. ไดปฏิบัติหนาที่ดวยความเขมแข็งและไดรับ
                  ประสบการณเรื่องการสอดแนม โดยเฉพาะการปฏิบัติงานตอนกลางคืน เลยไดรับฉายาวา

                  “อิมปซา” แปลวา หมาปาไมเคยนอนหลับ
                                ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2442 เหตุการณที่เมืองมาฟอีคิง หลังจาก บี.พี. ไดกลับจากการ

                  ปฏิบัติงานที่อินเดีย 2 ป บี.พี. ไดรับคําสั่งดวนใหเดินทางไปแอฟริกา เพื่อหาทางปองกันการรุกราน
                  ของพวกบัวร (ชาวดัทซที่อพยพไปอยูในแอฟริกาใต) ในทรานสวาลและออเรนจทรีสเตท ซึ่งจะ

                  ตั้งตนเปนเอกราช บี.พี. ไดนํากองทหารไปรักษาเมืองมาฟอีคิงซึ่งถูกลอมโดยกองทหารบัวร

                  เปนเวลานานถึง 217 วัน จึงมีกองทัพใหญยกไปชวยและทําใหพวกบัวรตองลาถอยไป
                                ในการปองกันเมืองมาฟอีคิง บี.พี. ไดปฏิบัติหนาที่ดวยความเขมแข็ง อดทน ราเริง

                  ไมยอทอ ใชสติปญญาหาวิธีแกปญหา ทํากลอุบายลวงขาศึกใหเขาใจผิด คิดวา มีกําลังทหาร
                  มากมาย และมีการปองกันรักษาเมืองอยางเขมแข็ง ตลอดจนใชเด็กอาสาสมัครที่ไดรับการ

                  อบรมแลวปฏิบัติหนาที่สงขาว ปรากฏวาทํางานไดผลดี ทําให บี.พี. มีความประทับใจในตัวเด็ก
                  และเห็นวา ถาใชเด็กใหถูกทางแลวจะเกิดประโยชนแกประเทศชาติอยางมาก จึงไดริเริ่มการลูกเสือ

                  ในเวลาตอมา จากเหตุการณที่เมืองมาฟอีคิง ทําให บี.พี. ไดรับฉายาวา “ผูปองกันมาฟอีคิง”
   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68   69