Page 79 - วทยาศาสตรเพอพฒนาอาชพธรกจและบรการ_Neat
P. 79

71


               เช่นกัน  แต่ช่วงแรกการผลิตเพียงเพื่อนํานํ้ามันก๊าดจากปิโตรเลียมมาใช้เติมตะเกียงและ

               ผลิตนํ้ามันหล่อลื่น ส่วนนํ้ามันเบนซินจะถูกเผาทิ้ง


                    เมื่อมีการพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายใน  ช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ทําให้มีการคิดค้น

               พลังงาน ที่จะนํามาใช้กับเครื่องยนต์ จนกระทั่งมีการผลิตรถที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินขึ้น และ

               เครื่องยนต์เบนซิน ได้ถูกดัดแปลงไปใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทําให้ความต้องการใช้นํ้ามัน


               เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก กรรมวิธีการ กลั่นปิโตรเลียมถูกพัฒนาขึ้น เพื่อเพิ่มปริมาณนํ้ามัน

               เบนซินที่ได้ในกระบวนการกลั่นนํ้ามันดิบ ผลิตภัณฑ์ หลายอย่างที่เคยทิ้ง เช่น ยางมะตอย

               สามารถนํามาใช้ประโยชน์ได้ ปิโตรเลียมกลายเป็นสิ่งจําเป็นต่อชีวิต  มากขึ้นทุกที ทําให้มี


               การค้าปิโตรเลียมระหว่างประเทศในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก

                    การสํารวจค้นหาปิโตรเลียมมีขั้นตอนยุ่งยากซับซ้อนและต้องใช้เงินลงทุนสูง แม้ได้

               สํารวจ ทางธรณีวิทยา ถึงความเป็นไปได้ที่จะได้พบปิโตรเลียมอย่างถี่ถ้วนก็ตาม ก็ยังไม่แน่


               ว่าจะได้พบปิโตรเลียม ซึ่งการสํารวจแหล่งปิโตรเลียมมีขั้นตอนดังนี้

                    1. การสํารวจทางธรณีวิทยา เพื่อสํารวจหาว่ามีหินต้นกําเนิด และหินกักเก็บปิโตรเลียม

               อยู่บริเวณนั้นหรือไม่ ทําแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศและเข้าไปสํารวจรายละเอียดบริเวณที่


               คาดว่าจะมี แหล่งปิโตรเลียม รวมทั้งเก็บตัวอย่างหินเพื่อการวิเคราะห์หาอายุและสารต้น

               กําเนิดปิโตรเลียม

                    2. การสํารวจทางฟิสิกส์ เป็นการสํารวจโครงสร้างหินชั้นต่าง ๆ ใต้ผิวโลกโดยใช้วิธีการ


               ทาง ธรณีฟิสิกส์ ได้แก่ วัดคลื่นความสั่นสะเทือน วัดค่าสนามแม่เหล็กและวัดค่าแรงดึงดูด

               โลก

                    3. การเจาะสํารวจ เป็นการดําเนินการเจาะด้วยสว่านหมุน บริเวณที่คาดว่าจะมีแหล่ง


               ปิโตรเลียม เพื่อให้ทราบแน่ชัดว่ามีอยู่หรือไม่
   74   75   76   77   78   79   80   81   82   83   84