Page 163 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 163
ประวัติศาสตร์จานเดียว
ใด ความเป็นพม่าเพียงหนึ่งเดียวยังไม่เคยเกิดขึ้นได้สำาเร็จ มอญ ไทยใหญ่
กะเหรี่ยง ฯลฯ เหล่านี้ยังคงอัตลักษณ์ของตนเองเอาไว้อย่างเหนียวแน่น ใน
สมัยโบราณเมื่อสบโอกาสเหมาะพวกเขาก็พร้อมที่จะแยกตัวเป็นอิสระเสมอ
มาในยุคศตวรรษที่ ๒๐ ก็เช่นกัน อำานาจของรัฐบาลกลางไม่อาจแผ่มาถึง
พื้นที่ห่างไกล หากไม่ใช่เมืองหลวงหรือหัวเมืองใหญ่ อำานาจที่แท้จริงก็ตกอยู่
ในมือของกลุ่มคอมมิวนิสต์หรือกบฎชนกลุ่มน้อย
********************
แม้ว่าพรรค AFPFL จะเข้ามามีบทบาทมากในการบริหารประเทศ โดย
เฉพาะช่วงปลายสมัยอาณานิคม แต่ระหว่างสงครามโลกหรือตอนที่ถูกญี่ปุ่น
เข้ายึดครอง กลุ่มที่มีบทบาทมากกว่าในระดับท้องถิ่นคือพรรคคอมมิวนิสต์
โดยขยายแนวคิดไปยังกลุ่มเกษตรกรที่นับเป็นคนหมู่มากของประเทศ พรรค
คอมมิวนิสต์มีส่วนร่วมไม่น้อยในการเรียกร้องเอกราชจากอังกฤษ แต่เมื่อ
บรรลุวัตถุประสงค์แล้วพวกเขาก็ถูกกันออกไปจากอุดมการณ์ทางการเมือง
ที่ต่างกัน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่พรรคคอมมิวนิสต์จะคอยหาทางบ่อน
ทำาลายรัฐบาลกลางของอูนุอยู่เสมอๆ
เมื่อผู้นิยมคอมมิวนิสต์แยกตัวจาก AFPFL ไปตั้งกองทัพธงแดง
และธงขาวได้ไม่นาน ทั้งสองกลุ่มก็กลายเป็นกลุ่มนอกกฎหมาย จึงเกิด
ปฏิบัติการใต้ดินขึ้นทั่วประเทศจากการสนับสนุนของเกษตรกรที่เห็นด้วย
กับแนวคิดของพรรค มีการจัดตั้งกองกำาลังติดอาวุธขึ้นทั่วประเทศเตรียม
พร้อมก่อสงครามกลางเมือง แต่เคราะห์ดีที่เหตุการณ์ร้ายแรงนั้นก็ไม่เกิดขึ้น
การดำาเนินงานของพรรคคอมมิวนิสต์เต็มไปด้วยอุปสรรคจากการขาดแรง
สนับสนุนด้านยุทโธปกรณ์ ประกอบกับกลไกของรัฐที่หยุดยั้งการเติบโตของ
พรรค เข้าสู่ปี พ.ศ. ๒๔๙๓ ผู้สนับสนุนพรรคก็ลดน้อยลงเรื่อยๆ ทั้งที่เกือบ
๑๕๕