Page 248 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 248
ประวัติศาสตร์จานเดียว
กลุ่มการเมืองก็ชวนให้วุ่นวายจนอยากจะหนีไปเสียไกลๆ ขณะที่พม่าแม้จะ
ถูกประนามว่าเป็นรัฐบาลที่ไม่เป็นประชาธิปไตย แต่เสถียรภาพกลับมั่นคง
กว่ากันเยอะ
เทียบกันแค่พม่ากับไทยก็ชวนให้คิดกันแล้ว ขณะที่กำาลังเร่งรัดให้
ประชาชนในประเทศตระหนักถึงความสำาคัญของการรวมเป็นประชาคม
อาเซียน เปอร์เซนต์ของคนไทยที่ใช้ภาษาอังกฤษต่ำาพอๆ กับพม่า แต่นับ
ในกลุ่มอาเซียนด้วยกัน คนพม่าฟังและพูดภาษาไทยได้ แต่คนไทยไม่รู้เรื่อง
ภาษาพม่าสักนิด
ปัญหาที่รัฐบาลทหารพม่าต้องแก้ไขมีเพียงไม่กี่ข้อ หนึ่งคือการปฏิรูป
ประเทศไปสู่ประชาธิปไตย สองคือปัญหาชนกลุ่มน้อย สองปัญหาเรื้อรังนี้
หากพม่าแก้ไขได้สำาเร็จ พวกเขาจะก็แทบจะโบยบินได้เลย ผู้ที่รับคำาชื่นชมไป
แบบเต็มๆ เห็นจะไม่พ้นประธานาธิบดีเต็งเส่ง เขามีบทบาทสำาคัญในกองทัพ
จนก้าวขึ้นมามีบทบาทในวงการเมือง ขึ้นดำารงตำาแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี
พ.ศ. ๒๕๕๐ จากนั้นจึงลาออกจากกองทัพเพื่อตั้งพรรคการเมืองคือ พรรค
USDP ซึ่งแม้จะเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นพรรคการเมืองที่มีกองทัพหนุนหลัง
แต่เต็งเส่งกลับมีวิสัยทัศน์และมีแนวคิดในการบริหารที่ทันยุคสมัย เข้าก้าวขึ้น
ดำารงตำาแหน่งประธานาธิดีคนแรกของพม่าจากการเลือกตั้งทั่วไปในปี พ.ศ.
๒๕๕๓ กลายเป็นผู้นำาพลเรือนคนแรกของพม่าในรอบกว่าครึ่งศตวรรษ
บทบาทการเป็นผู้นำาประเทศของเต็งเส่งแตกต่างจากผู้นำาคนก่อนๆ
ของพม่าอย่างสิ้นเชิง ในยุคของเขาแทบจะไม่มีการใช้ความรุนแรงหากไม่จำา
เป็นจริงๆ ทหารเปลี่ยนบทบาทมาเป็นทหารอาชีพมากขึ้น ทหารที่เป็นฝ่าย
การเมืองก็ทำาหน้าที่ของตัวเองไปในสภาพที่กันเก้าอี้ไว้ให้อยู่แล้วร้อยละ ๒๕
เราไม่อาจรู้ความจริงได้ว่าอำานาจการบริหารประเทศโดยแท้จริงนั้นอยู่ที่ตัว
เต็งเส่งเพียงผู้เดียวหรือกลุ่มอำานาจใดกันแน่ แต่การเลือกเต็งเส่งขึ้นมาเป็น
ผู้นำาครั้งนี้นับว่าเป็นผลสำาเร็จของฝั่งทหารไม่น้อย เต็งเส่งนั้นจัดเป็นนาย
๒๒๔