Page 96 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 96

ประวัติศาสตร์จานเดียว




           เพราะพระองค์ท่านต้องการคงความเป็นมิตรกับอังกฤษและเพื่อป้องกันมิให้
           อังกฤษเข้ามาฉวยโอกาสตั้งค่ายในเขตไทย  ทัพของไทยนั้นทำาทีรีรออยู่แถบ
           ชายแดน  ไม่ได้ออกช่วยรบอย่างจริงจังเท่าไหร่  ซึ่งเอาเข้าจริงนี่อาจเป็นการ

           ยกทัพออกไปป้องกันอาณาเขตของเราเพียงแต่อ้างว่าจะช่วยอังกฤษด้วย
           ในที  พอเสร็จศึก  ทางอังกฤษก็ยังส่งคณะทูตมาแสดงความขอบคุณเสียด้วย
           ซ้ำา  แต่ก็ไม่วายทักท้วงถึงชาวมอญที่หนีเข้ามาในไทยเมื่อครั้งก่อนสงคราม
           พระองค์ท่านก็ยินยอมให้ชาวมอญกลับบ้านเกิดเมืองนอนตามแต่สมัครใจ

           ดังนั้นจึงมีชาวมอญส่วนหนึ่งอพยพกลับไปยังพม่า  และไทยกับอังกฤษก็ยัง
           คงความเป็นไมตรีกันเอาไว้ได้ตามเดิม
                   ชัยชนะเหนือพม่าทำาให้อังกฤษกร่างมากขึ้นกว่าเดิม  ในปี  พ.ศ.
           ๒๓๖๙  อังกฤษส่งคณะทูตมาเจรจาการค้าที่แน่นอนว่าเอาเปรียบพม่าอย่าง

           ที่สุด  โดยเฉพาะการเสนอกึ่งบังคับให้พม่าส่งข้าวเป็นสินค้าออก  แต่พม่าจะ
           เอาข้าวที่ไหนไปขาย   ลำาพังแค่กินกันภายในประเทศยังฝืดเคืองเพราะเพิ่ง
           เสร็จศึก  เรือกสวนไร่นายังไม่ได้หว่านไม่ได้ปลูก  ขนาดค่าปรับสงครามก็ยัง
           ต้องอาศัยเงินสมทบทุนจากราษฎร     เพราะเงินในท้องพระคลังนั้นแทบไม่

           เหลือ
                   ในช่วงแรกๆ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้แทนจากอังกฤษกับชาวพม่าไม่
           ค่อยจะราบรื่นนัก จนเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๗๓ มีการเปลี่ยนแปลงตัวข้าหลวงใหญ่
           ในอินเดียซึ่งมีแนวคิดสมัยใหม่จากอิทธิพลของการปฏิวัติในฝรั่งเศส  โดยหัน

           มาสนใจความรู้สึกของคนในพื้นที่มากขึ้นและเริ่มแสดงความเข้าอกเข้าใจชาว
           พม่ามากขึ้นกว่าแต่ก่อน  แต่ก็ยังคงรักษาผลประโยชน์ของอังกฤษอยู่เหมือน
           เดิม  ทูตอังกฤษมาประจำากรุงอังวะในขณะนั้นคือ  พันตรีเฮนรี่  เบอร์นี่  คน
           เดียวกับที่เคยเข้ามาเจรจาความในแผ่นดินสยามจนเกิดสนธิสัญญาเบอร์นี่

           ผลงานในครั้งนั้นทำาให้เขาได้เข้ามาประจำาการในพม่าซึ่งเกิดการเปลี่ยนแปลง
           ด้านความสัมพันธ์กับทางราชสำานักพอสมควร  โดยนายเบอร์นี่เป็นตัวแทน



           ๘๘
   91   92   93   94   95   96   97   98   99   100   101