Page 19 - CA3.3
P. 19

90     วารสารโรคมะเร็ง                            ปีที� �� ฉบับที� � กรกฎาคม-กันยายน ����




                       ประเด็นปัญหาของความยั�งยืนในการบริหารจัดการ  เนื�องจากสตรีไทยส่วนใหญ่ยังไม่สามารถเข้าถึงการตรวจ

                       ดังกล่าว ผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากการสัมภาษณ์  คัดกรองด้วยแมมโมแกรมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ�ง BSE
                       ผู้บริหารโครงการฯพบว่า การดําเนินงานในหลายส่วน  แม้ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ยืนยันว่าสามารถลดอัตรา

                       ยังขาดการส่งต่องานอย่างเป็นระบบและขาดความ  การตายของมะเร็งเต้านมได้ แต่สามารถช่วยลดระยะ
                       ต่อเนื�องในการดําเนินงาน ปัญหาอาจเกิดจากปัจจัย  ของโรค (downstage) มะเร็งเต้านมที�ตรวจพบและเพิ�ม

                       ทางด้านบุคลากรผู้ให้บริการ และสตรีกลุ่มเสี�ยงผู้ใช้  ความตระหนักของสตรีกลุ่มเสี�ยงได้ จากผลการศึกษา

                       บริการ เช่น ภาระหน้าที�ของบุคลากรทางสุขภาพที�มี  ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะดังนี�
                       หลากหลายด้าน ทําให้ไม่สามารถติดตามผลการ          1. ด้านการจัดบริการสุขภาพ หน่วยงานภาครัฐ

                       ดําเนินงานและผลักดันให้โครงการป้ องกันและควบคุม  ควรเพิ�มช่องทางการประชาสัมพันธ์ผ่านสื�อต่าง ๆ เช่น

                       มะเร็งเต้านมดําเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและ  การประชาสัมพันธ์ผ่านอินเตอร์เนต วิทยุ โทรทัศน์
                       ต่อเนื�อง ประกอบกับสตรีกลุ่มเสี�ยงจํานวนมากยังขาด  เวปบอร์ด เฟสบุ๊ค mobile application ต่าง ๆ จะทําให้

                       ความรู้และความตระหนักเกี�ยวกับปัจจัยเสี�ยงในการ  สามารถเข้าถึงสตรีกลุ่มเสี�ยงและสตรีกลุ่มเป้ าหมายที�

                       ป้ องกันและควบคุมมะเร็งเต้านม ทําให้ละเลยและไม่เห็น  อายุตั�งแต่ 20 ปีขึ�นไปให้ได้รับความรู้และการฝึกตรวจ
                       ความสําคัญของการทํา BSE ด้วยตนเองอย่างต่อเนื�อง เต้านมด้วยตนเอง (BSE) อย่างถูกวิธี นอกจากนี� การ

                       เป็นประจําทุกเดือน นอกจากนี�การประชาสัมพันธ์  ส่งเสริมให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมจะเป็ นการผสาน
                                      29
                       โครงการอาจยังไม่ครอบคลุมพื�นที�ทั�งหมดและเข้าถึง  ความร่วมมือประชากรในชุมชนและภาครัฐทําให้เข้าถึง

                       กลุ่มเป้ าหมายได้โดยตรง รูปแบบของการประชาสัมพันธ์  ประชากรกลุ่มเสี�ยงได้อย่างทั�วถึงมากขึ�นและดําเนิน

                       ที�ยังคงใช้รูปแบบเดิม ช่วงระยะเวลาในการจัดกิจกรรม  โครงการป้ องกันและคัดกรองมะเร็งเต้านมระยะ
                       แต่ละครั�งอาจทิ�งช่วงนานเกินไป ทําให้ขาดความต่อเนื�อง  เริ�มแรกได้อย่างยั�งยืน

                       ในการเสริมแรง/จูงใจการปรับเปลี�ยนพฤติกรรมของ     2. ด้านนโยบายสุขภาพแห่งชาติ กระทรวง
                       สตรีในการตรวจคัดกรองและป้ องกันมะเร็งเต้านม  สาธารณสุขและรัฐบาลควรดําเนินการผลักดันให้เกิด

                                                                 กฎหมายมะเร็งแห่งชาติ (National Cancer Act) เพื�อใช้
                                        สรุป                     เป็นกรอบในการกําหนดนโยบายด้านการส่งเสริมและ

                             การศึกษาวิเคราะห์การจัดระบบบริการสุขภาพ  ป้ องกันมะเร็งเต้านม รวมถึงการผลักดันสิทธิขั�นพื�นฐาน

                       ในการป้ องกันและคัดกรองมะเร็งเต้านมในระยะเริ�มแรก  เกี�ยวการคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยการตรวจแมมโมแกรม

                       ในมุมมองของบุคลากรสุขภาพผู้ ให้บริการครั�งนี� ให้เป็นสิทธิขั�นพื�นฐานที�ประชากรไทยสามารถเข้าถึง
                       สนับสนุนว่าการตรวจเต้านมด้วยตนเอง (BSE) รวมทั�ง การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยวิธีมาตรฐาน

                       การตรวจโดยบุคลากรสุขภาพ (CBE) เป็นวิธีการคัดกรอง  เชื�อว่าจะส่งผลให้อุบัติการณ์ความเจ็บป่วยด้วยมะเร็ง

                       มะเร็งเต้านมเบื�องต้นที�เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย  เต้านมลดลงได้
   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24