Page 34 - My Magazine
P. 34
ศิลปะอัตลักษณ์ใหม่ของสารคาม
กระติ๊บข้าว เครื่องจักสานที่มีอยู่คู่บ้านของทุกครัวเรือนในชุมชนคนกินข้าว
เหนียวท�าหน้าที่เป็นภาชนะใส่อาหารมาแล้วกี่พันปีคงไม่มีใครสืบค้นทราบได้ แต่เมื่อ
สิบกว่าปีมานี้นี่เองหน้าที่ของมันได้เปลี่ยนไป เหตุเกิดที่บ้านหนองโนใต้ อ.นาดูน
จ.มหาสารคาม เมื่อครูหนุ่มนาม “ครูเซียง” หรือคุณครูปรีชา การุณ ครูสอนศิลปะ
ของโรงเรียนในพื้นที่ จู่ๆวันนึงครูเซียงก็ได้สังเกตุเห็นว่าเวลาที่กระติ๊บข้าวถูกเปิดๆ
ปิดๆขึ้นลงเพื่อล้วงจกข้าวเหนี่ยวนั้น ฝาด้านบนและด้านล่างของมันมีลักษณะคล้าย
ปากของคนที่ก�าลังพูดคุยบอกเล่าเรื่องราวบางอย่าง ด้วยความเป็นศิลปินครูเซียงจึง
ได้แต่งแต้มหน้าตาให้มันใส่แขนขาและล�าตัวตามจินตนาการ จนกระติ๊บข้าวธรรมดาๆ
ได้กลายมาเป็นหุ่นเชิดหน้าตาแปลกๆอย่างที่เห็น แถมเครื่องแต่งกายที่หุ่นเหล่านี้สวม
ใส่ คนทั่วไปก็บอกได้ทันทีว่ามันมาจากที่ราบสูงภาคอีสาน ครูเซียงได้เชิญชวนเด็กใน
ละแวกโรงเรียนมาลองเรียนเชิดหุ่นและหัดร้องล�าเป็นท�านองหมอล�า หัดเล่นเครื่อง
ดนตรีด้วยพิณด้วยแคนแบบอีสานดั้งเดิม จนการฝึกซ้อมลงตัวการแสดงจึงเกิดขึ้น เริ่ม
ต้นจากการแสดงเปิดหมวกหาทุนไปเรื่อยๆจนมีทุนสร้างโรงละครเป็นของตนเอง
แสดงไปเรื่อยๆจนคณะด้านการละครของทั้งมหาวิทยาลัยขอนแก่นและมหาวิทยาลัย
มหาสารคามเข้ามาร่วมศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านต่างๆ แสดงไปเรื่อยๆจนได้มีโอกาส
โชว์ในงานหุ่นอาเซียน จนมีหนังฉายโรงเป็นของตนเอง แสดงไปเรื่อยๆจนในที่สุดพวก
เขาได้แสดงเป็นโชว์เปิดงานในเวทีหุ่นละครโลกไปแล้ว คนทั่วไปรู้จักพวกเขาในนาม
“คณะหมอล�าหุ่นเด็กเทวดา” ซึ่งกาลเวลาได้พิสูจน์แล้วว่าเด็กๆคณะนี้นั้นเก่งสมชื่อ
ช่วงปีหลังๆสื่อแขนงต่างๆได้ให้ความสนใจหุ่นกระติ๊บคณะนี้ชนิดว่าออกสื่อแทบจะ
ครบทุกช่องแล้ว ท�าให้คนภายนอกรู้ว่าจังหวัดมหาสารคามได้ถือก�าเนิดศิลปะการ
แสดงที่เป็นเอกลักษณะเฉพาะของสารคามขึ้นมาแล้วและตอนนี้ชาวมหาสารคามทุก
ภาคส่วนก�าลังระดมก�าลังพลักดันสิ่งที่ครูเซียงเริ่มไว้ให้เป็นสมบัติด้านศิลปวัฒนธรรม
ประจ�าจังหวัดมหาสารคามสืบต่อไป