Page 26 - ชุดกิจกรรมการเรียนวิทยาศาสตร์2
P. 26
26
พืชซีเอเอ็ม (crassulacean acid metabolism : CAM- plant ) เป็นพืชที่
ตรึง CO2 ในเวลากลางคืน เนื่องจากปากใบเปิดเวลากลางคืนและปากใบปิดในเวลากลางวัน เป็นพืช
ทนแล้ง อวบน้ า ตัวอย่างพืชกลุ่มนี้ ได้แก่ กระบองเพชร ว่านหางจระเข้ สับปะรด ป่านศรนารายณ์
กล้วยไม้ เป็นต้น โดยกรดฟอสโฟอีนอลไพรูวิก (phosphoenol pyruvic acid : PEP) จะตรึงแก๊ส
คาร์บอนไดออกไซด์เกิดเป็นกรดออกซาโลแอซิติก (oxaloacetic acid) แล้วเปลี่ยนเป็นกรดมาลิก
(malic acid) เก็บสะสมในถุงแวคิวโอล (vacuole) พอเวลากลางวันกรดมาลิกจะปล่อยแก๊ส
คาร์บอนไดออกไซด์เข้าสู่วัฏจักรคัลวินต่อไป
ตำรำงเปรียบเทียบพืช C3 พืช C4 และพืชซีเอเอ็ม
ข้อเปรียบเทียบ พืช C3 พืช C 4 พืชซีเอเอ็ม
1. จ านวนครั้งของการ 1 ครั้ง 2 ครั้ง 2 ครั้ง
ตรึงคาร์บอนไดออกไซด์
2. สารที่ตรึงคาร์บอนไดออกไซด์ ไรบูโลสบิสฟอสเฟต กรดฟอสโฟอีนอล ทั้ง PEP และ RuBP
และต าแหน่งที่เกิดการ (RuBP) ไพรูวิก (PEP) ตรึงในเซลล์มีโซฟิลล์
ตรึงคาร์บอนไดออกไซด์ ตรึงในเซลล์ ตรึงในเซลล์
มีโซฟิลล์ มีโซฟิลล์ และ ไรบูโลส
บิสฟอสเฟต ตรึงใน
เซลล์เยื่อหุ้มท่อ
ล าเลียง
3. การตรึง คาร์บอนไดออกไซด์ - กลางวัน กลางคืน
ของ PEP เกิดขึ้นในเวลา
4. การตรึง คาร์บอนไดออกไซด์ กลางวัน กลางวัน กลางวัน
ของ RuBP เกิดขึ้นในเวลา
5. สารตัวแรกที่เกิดจากการตรึง กรดฟอสโฟกลีเซอริก กรดออกซาโล แอซิติก กรดออกซาโล แอซิติก
คาร์บอนไดออกไซด์ (PGA) (OAA) (OAA)
มีคาร์บอน 3 อะตอม มีคาร์บอน 4 อะตอม มีคาร์บอน 4 อะตอม
(3C) (4C) (4C)
6. การเกิดวัฏจักรคัลวิน เกิด เกิด เกิด
7. ฟอสโฟกลีเซอรัลดีไฮด์ เกิดในทุกเซลล์ที่มี เกิดในเซลล์ เกิดในทุกเซลล์ที่มี
(phosphoglyceraldehyde : คลอโรพลาสต์ เยื่อหุ้มท่อล าเลียง คลอโรพลาสต์
PGAL)
8. เซลล์เยื่อหุ้มท่อล าเลียง อาจมีหรือไม่มี มี ไม่มี
9. คลอโรพลาสต์ในเซลล์ อาจมีหรือไม่มี มี -
เยื่อหุ้มท่อล าเลียง
10. การหายใจเชิงแสง มี มีน้อยมาก มี
(photorespiration)
11. ประสิทธิภาพของการใช้น้ า ต่ า เพราะใช้น้ ามากต่อ สูง เพราะใช้น้ าน้อย สูงมาก
ต่อการตรึงคาร์บอนไดออกไซด์ การตรึงคาร์บอนได ต่อการตรึงคาร์บอน
1 โมเลกุล ออกไซด์ 1 โมเลกุล ไดออกไซด์ 1 โมเลกุล