Page 75 - Annual Report 2554
P. 75
1. เงินก�าไรสุทธิที่ธนาคารแห่งประเทศไทยน�าส่งเป็นรายได้ตามกฎหมายว่าด้วยธนาคารแห่งประเทศไทย ในแต่ละปีจ�านวนไม่น้อย
กว่าร้อยละเก้าสิบ
2. เงินรายได้จากการแปรรูปรัฐวิสาหกิจในจ�านวนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก�าหนดโดยอนุมัติ
คณะรัฐมนตรี
3. ดอกผลของกองทุน
พันธบัตรรัฐบาลกรณีพิเศษและพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ ภายใต้พระราชก�าหนดให้อ�านาจกระทรวงการคลังกู้เงิน
และจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่สอง พ.ศ. 2545 (FIDF3) มีวงเงินกู้ 780,000
ล้านบาท ออกเพื่อชดใช้ความเสียหายและปรับโครงสร้างแหล่งเงินทุนของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน เงินที่ได้จาก
การกู้ไม่ต้องน�าส่งเป็นรายได้แผ่นดิน และสามารถด�าเนินการปรับโครงสร้างหนี้ ขยายระยะเวลาช�าระหนี้หรือลดภาระหนี้เดิมได้ เงินที่น�ามา
ช�าระคืนต้นเงินกู้ มาจากบัญชีสะสมเพื่อการช�าระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
ที่เปิดไว้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยเป็นเงินมาจากสินทรัพย์คงเหลือในบัญชีผลประโยชน์ประจ�าปี ตามกฎหมายว่าด้วยเงินตรา
พันธบัตรรัฐบาลกรณีพิเศษ ภายใต้พระราชก�าหนดให้อ�านาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของระบบสถาบันการ
เงิน พ.ศ. 2541 (TIER1) เพื่อใช้ด�าเนินมาตรการเสริมสร้างความมั่นคงของระบบสถาบันการเงินภายในประเทศ โดยเป็นการออกพันธบัตร
เพื่อแลกกับหุ้นบุริมสิทธิ์ของสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการโดยออกในจ�านวนที่เท่ากัน ซึ่งได้ด�าเนินการออกพันธบัตรในปีงบประมาณ พ.ศ.
2542 - พ.ศ. 2543 จ�านวน 61,304 ล้านบาท โดยมีเงื่อนไขว่า พันธบัตร ที่ออกตามโครงการนี้จะไม่สามารถไถ่ถอนก่อนก�าหนดได้ เว้นแต่มี
การจ�าหน่ายหุ้นบุริมสิทธิ์ที่กระทรวงการคลังถือตามโครงการนี้ โดยสามารถไถ่ถอนได้เป็นจ�านวนที่เท่ากัน
พันธบัตรรัฐบาลกรณีพิเศษ ภายใต้พระราชก�าหนดให้อ�านาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของระบบสถาบันการเงิน
พ.ศ. 2541 (TIER2) ออกเพื่อใช้ด�าเนินมาตรการเสริมสร้างความมั่นคงของระบบสถาบันการเงินภายในประเทศ โดยเป็นการออกพันธบัตรเพื่อ
แลกกับหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ของสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการโดยออกในจ�านวนที่เท่ากัน ซึ่งได้ด�าเนินการออกพันธบัตรในปีงบประมาณ พ.ศ.
2542 - พ.ศ. 2544 จ�านวน 12,430 ล้านบาท
ตั๋วสัญญาใช้เงิน เป็นตราสารหนี้ที่ออกตามมาตรา 9 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ต่อมาได้มีการยกเลิกโดยพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 เงินที่ได้จากการออกตั๋วสัญญาใช้เงินได้น�าส่งคลังเพื่อน�าไปชดเชย
การขาดดุล ซึ่งกระทรวงการคลังสามารถออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้กับผู้ให้กู้โดยตรง จึงไม่มีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ นอกจากนี้ ปัจจุบันยังมีตั๋วสัญญา
ใช้เงินที่ออกตาม FIDF1, FIDF3 และTKK อีกด้วย
พันธบัตรกรณีพิเศษที่เป็นเงินตราต่างประเทศ ได้แก่ พันธบัตรพัฒนาอาชีวศึกษา, พันธบัตรรามา และพันธบัตรโรงเรียนมัธยมแบบ
ประสม ออกตามพระราชบัญญัติกู้เงินเพื่อพัฒนาอาชีวศึกษา พ.ศ. 2509, กฎกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2511 และพระราชบัญญัติ
กู้เงินเพื่อพัฒนาการศึกษาโรงเรียนมัธยมแบบประสม พ.ศ. 2514 ตามล�าดับ เพื่อใช้ด�าเนินโครงการพัฒนาอาชีวศึกษา จัดซื้อครุภัณฑ์
ต่างประเทศตามโครงการจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และพัฒนาการศึกษาโรงเรียนมัธยมแบบประสม ตามล�าดับ โดย
มีวงเงิน จ�านวน 7,010,000 เหรียญสหรัฐ 1,700,000 เหรียญสหรัฐ และ 6,817,000 เหรียญสหรัฐ ตามล�าดับ ในการออกพันธบัตรจะเกิด
ค่าใช้จ่าย ได้แก่ ค่าธรรมเนียมในการจ�าหน่าย และการเป็นนายทะเบียน ร้อยละ 0.04 ต่อปี
สัญญาเงินกู้ระยะยาว เป็นการท�าสัญญาเงินกู้ภายใต้ FIDF3 เพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ และภายใต้ TKK เพื่อด�าเนินโครงการตามแผน
ปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ภายใต้พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 เพื่อให้รัฐวิสาหกิจกู้ต่อ
ANNUAL REPORT 2011 • PUBLIC DEBT MANAGEMENT OFFICE 73
55-07-107_001-128_Y.indd 73 9/18/12 5:18 PM