Page 65 - บัญชีชาวบ้าน
P. 65

58







                    เรื่องที่ 2.2       แนวทางการลดรายจ่าย


                         การแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่องในการใช้จ่ายเงินหรือปัญหารายรับไม่เพียงพอกับรายจ่ายนั้นมี
                  แนวทางดังนี้
                         1. การตัดรายจ่ายที่ไม่จําเป็นออก เพื่อลดภาระการจ่ายเงินออกจากครอบครัว เช่น รายจ่ายเกี่ยวกับ

                  การพนัน สิ่งเสพติดของมึนเมา รายจ่ายฟุ่มเฟือย เป็นต้น เป็นการสร้างนิสัยมิให้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
                         2. การลดรายจ่ายที่จําเป็นลง เพื่อสร้างนิสัยการประหยัด อดออม การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจํากัด
                  อย่างคุ้มค่า เช่น การปลูกผัก ผลไม้ไว้รับประทานเอง เพื่อช่วยลดค่าอาหาร และค่าเดินทางไปตลาด อีกทั้งทํา
                  ให้สุขภาพดีอีกด้วย ลดการใช้น้ํามันเชื้อเพลิง แล้วหันมาออกกําลังกายโดยการปั่นจักรยาน หรือ การเดิน การ

                  วิ่งแทนการขับรถจักรยานยนต์ หรือรถยนต์ เป็นต้น ความต้องการของตลาดเป็นหลัก มิใช่ความต้องการของผู้
                  จําหน่าย เพราะบางคนไม่ชอบขายสินค้า A แต่เลือกที่จะขายสินค้า B เพราะตนเองชื่นชอบ แต่กลับกลายเป็น
                  ว่าคนต้องการซื้อสิ้นค้า A มากกว่า นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของการทําธุรกิจที่ตนเองชื่นชอบ แต่ไม่ประสบ
                  ความสําเร็จด้านการตลาด เป็นต้น

                         สิ่งที่กล่าวถึงคร่าวๆ เป็นรูปแบบของการวางแผนในเรื่องของรายรับ-รายจ่าย จะว่าไปเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว
                  แต่หลายคนไม่ตระหนัก สภาพเศรษฐกิจของปัจเจกบุคคล ส่งผลกระทบต่อรูปแบบการใช้ชีวิต หรืออาจ
                  หมายถึง การมีคุณภาพชีวิตที่ดี  คนที่ไม่มีเงินจะพบว่าเงินเริ่มมีความสําคัญก็ต่อเมื่อเขามีความจําเป็นที่จะต้อง

                  “ใช้เงิน” เช่น มีลูกต้องการส่งลูกเรียน, พ่อแม่เจ็บป่วย ต้องการให้ได้รับการรักษาในโรงพยาบาลที่ดีๆ, มีแฟน
                  ต้องการพาแฟนไปเที่ยว , ฝันหวานได้นั่นอยากได้นี่ ฯลฯ  ส่วนคนที่มีเงิน (ด้วยการหาจากน้ําพักน้ําแรงของ
                  ตนเอง) จะทราบและเข้าใจเรื่องของรายรับ-รายจ่ายเป็นอย่างดี พวกเขาอาจไม่ต้องจดบันทึกไว้ในสมุด แต่
                  เรื่องราวเหล่านี้จะฝังอยู่ในสมองของพวกเขา ทําให้คนรวย รวยยิ่งขึ้น คนจน จนซ้ําซาก เพราะอาจสับสนและ
                  นําไปปะปนกับเรื่องของความพอเพียง ว่าเป็นเรื่องของการ “ไม่ต้อง” มีเงินมากไม่ต้องใช้ความพยายามในการ

                  หาเงิน ก็อาจเป็นได้ หลายๆคนจึงยอมที่จะผลักรายรับที่ตนเองมีอยู่ออกไป และเพิ่มรายจ่ายให้มากขึ้น จึงจน
                  ซ้ําซ้อนโดยตลอด (Always Poor)
                         สิ่งที่ต้องรู้และเข้าใจคือ ความพอเพียง ไม่ได้หมายความว่า ไม่ต้องมีเงินมาก หากความคิดที่ว่า “ไม่ต้อง

                  มีเงินมาก” ฝังลึกในความคิด สิ่งที่จะตอบสนองออกมา ก็คือการขาดสติในการใช้จ่ายเงิน ดังนั้นต้องต้องระวัง
                  ทัศนคติที่มีต่อความพอเพียงด้วย   ความพอเพียง คือพอเพียงที่พฤติกรรม ไม่โลภมาก อยากมีอยากได้ “เกิน”
                  ความจําเป็น และไม่ใช้วิธีที่เป็นการเบียดเบียนผู้อื่น หรือทําในสิ่งที่ผิดกฎหมาย และควรแยกออกจากการทํา
                  ความเข้าใจเรื่องรายรับ-รายจ่ายนี้   มิเช่นนั้นก็จะเกิดความสับสนว่าการมีเงิน เป็นเรื่องของความโลภ หรือสิ่งที่

                  ไม่ดี

                  วิธีควบคุมการใช้จ่าย

                         นอกจากแรงกดดันทางการตลาดแล้ว ความรู้สึกและนิสัยส่วนตัวก็อาจทําให้เรากลายเป็นคนที่ใช้จ่าย
                  เกินตัว วิธีการควบคุมการใช้จ่ายสามารถทําได้ดังนี้
                         1. อย่าซื้อเพราะอารมณ์   หากมีความรู้สึกตื่นเต้นกับการจับจ่ายซื้อของและหาสินค้าลดราคา นั่นคือ
                  สิ่งที่แสดงถึงการซื้อของเพราะอารมณ์  วิธีแก้คือ อย่ารีบซื้อและให้คิดตามความเป็นจริง ว่าการซื้อของชิ้นนั้น
   60   61   62   63   64   65   66   67   68   69   70