Page 119 - วชาวทยาศาสตรทกษะโปรเเกรม_Neat (1)
P. 119
107
สิ่งที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หรือแม้แต่ การใช้กล้องจุลทรรศน์ธรรมดา
ดังนั้นการที่นักวิทยาศาสตร์จะสามารถมองเห็นขนาดเล็กระดับหนึ่งนาโน
เมตรได้นั้นจะต้องให้กล้องจุลทรรศน์ที่มีกําลังขยายสูงมาก เช่น กล้องจุลทรรศน์
อิเล็กตรอน หรือ กล้องจุลทรรศน์ชนิดใหม่ ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการศึกษาและ
วิจัยทางด้านนาโนเทคโนโลยีโดยเฉพาะ
ศาสตราจารย์ริชาร์ด ฟายน์แมน (Richard Feynman, 1918-1988) เป็นผู้ให้ความคิด
ว่า วัน หนึ่งนักวิทยาศาสตร์จะสามารถจัดเรียงอะตอมได้ จากการที่เขาได้ปาฐกถาเรื่อง
There's Plenty of Room t the Bottom เมื่อปี ค.ศ. 1959 ว่า “สักวันหนึ่ง เราจะ
สามารถประกอบสิ่งต่าง ๆ ผลิตสิ่งต่าง ๆ ขึ้นมาจาก
2. หลักการพื้นฐานของนาโนเทคโนโลยี
นาโนเทคโนโลยีเกิดขึ้นจากการผสมผสานระหว่างศาสตร์กับศิลป์หลายแขนง ที่
เกี่ยวข้องกับการ จัดการอะตอม หรือโมเลกุลโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนย้ายหรือ
เรียงตําแหน่งของอะตอมการประกอบกันหรือการแยกย้ายออกจากกันของอะตอมการ
ทําปฏิกิริยา(Reaction) หรือการเกิดอันตรกิริยา (Interaction) ระหว่างอะตอมเพื่อสร้าง
สิ่งต่างๆในระดับนาโน โดยกระบวนการเหล่านี้ต้องอาศัยความแม่นยํา ความเที่ยงตรง
และความละเอียดสูงมาก ซึ่งกระบวนการดังกล่าวนี้อาจทําให้สําเร็จได้โดยการใช้
ปฏิกริยาเคมี (Chemical Reaction) หรือกระบวนการเชิงกล (Mechanical Process)
หรือ กระบวนการของ การลอกเลียนแบบธรรมชาติ (Biomimetic Process) ในการ
สังเคราะห์สิ่งต่าง ๆ หมายถึงการนําหลักการ พื้นฐานของนาโนเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วใน
ธรรมชาติจากสัตว์หรือสิ่งต่าง ๆ รอบ ๆ ตัวเรามาประยุกต์ใช้ สร้าง และสังเคราะห์สิ่ง
ต่าง ๆ นําหลักการเปลี่ยนสีปีกมาใช้ในการสร้างเสื้อผ้าป้องกันความร้อน นําธรรมชาติ
ของ เปลือกหอยที่มีความแข็งแรง และทนทานต่อแรงกระแทกมาใช้ผลิตนาโนเซรามิก
นําหลักการของนํ้ากลิ้งบน ใบบัว (Lotus Effect) มาประยุกต์ใช้สีทาบ้าน รวมถึงเสื้อผ้า
กันนํ้า ไร้รอยคราบสกปรก เป็นต้น