Page 30 - วชาวทยาศาสตรทกษะโปรเเกรม_Neat (1)
P. 30
25
5) บทที่ 5 สรุปผลการทดลอง ประโยชน์ที่ได้รับจากการทําโครงงานเรื่องนี้
ข้อเสนอแนะ (ถ้ามี) เป็นการบอกให้รู้ว่าหากมีผู้ไปทดลองต่อจะทําอย่างไรจะแก้ไข
ปรับปรุงในส่วนใดบ้าง
3. ส่วนอ้างอิง (Bibliography Section) เป็นส่วนที่เขียนอ้างอิงเกี่ยวกับเอกสาร
ทฤษฎีหลักการ งานวิจัย เอกสารรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ ตําราต่าง ๆ ที่ศึกษา
ค้นคว้าประกอบในการทําโครงงาน ซึ่ง ควรสอดคล้องกับบทที่ 2 การเขียนต้องให้ถูกต้อง
ตามหลักการเขียนอ้างอิง
4. ส่วนภาคผนวก (Appendix Section) เป็นส่วนสุดท้ายของรายงาน เป็นส่วนที่ใส่
เนื้อหาหรือข้อมูล เพื่อประกอบความเข้าใจ เช่น ภาพประกอบในการทําโครงงาน ตาราง
ผนวก แบบสอบถาม วิธีการคํานวณ วิธีการทดสอบมาตรฐานที่อ้างถึง เป็นต้น
ที่กล่าวมานี้ เป็นรูปแบบหนึ่งของการเขียนรายงานของการทําโครงงานวิทยาศาสตร์
เท่านั้น ซึ่งเป็น การเขียนรายงานในลักษณะทั่ว ๆ ไป รูปแบบดังกล่าวนี้อาจไม่เหมาะสม
กับโครงงานทุกประเภทก็ได้ ทั้งนี้ แล้วแต่ประเภทของโครงงาน อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะ
เป็นโครงงานประเภทใด สิ่งสําคัญที่สุดที่ผู้เขียนรายงาน ควรตระหนักไว้อยู่เสมอ คือ
ควรเขียนรายงานให้ชัดเจน ใช้ศัพท์เทคนิคที่ถูกต้อง ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย และ ครอบคลุม
ประเด็นสําคัญ ๆ ทั้งหมดของโครงงาน
6. การแสดงผลงานโครงงานวิทยาศาสตร์
การแสดงผลงานจัดได้ว่าเป็นขั้นตอนสําคัญอีกประการหนึ่งของการทําโครงงาน
เรียกได้ว่า เป็นขั้น สุดท้ายของการทําโครงงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นการ
แสดงผลิตผลของงาน ความคิด และความ พยายามทั้งหมดที่ผู้ทําโครงงานได้ทุ่มเทลงไป
และเป็นวิธีการที่จะทําให้ผู้อื่นได้รับรู้และเข้าใจถึงผลงานนั้น การแสดงผลงานนั้นอาจทํา
ได้ในรูปแบบต่าง ๆ กัน เช่น การแสดงในรูปนิทรรศการซึ่งมีทั้งการจัดแสดง และ อธิบาย
ด้วยคําพูด หรือในรูปแบบของการจัดแสดงโดยไม่มีการอธิบายประกอบ หรือในรูปของ
การรายงาน ปากเปล่า ไม่ว่าการแสดงผลงานจะอยู่ในรูปแบบใดก็ตามควรจะจัดให้
ครอบคลุมประเด็นสําคัญดังต่อไปนี้