Page 57 - วชาวทยาศาสตรทกษะโปรเเกรม_Neat (1)
P. 57

50



               5. แรงเสียดทานและการใช้ประโยชน์

                    ในการออกแรงดึงวัตถุให้เคลื่อนที่ไปตามพื้น จะมีแรงต่าง ๆ มากระทําต่อวัตถุ เช่น

               นํ้าหนักของวัตถุที่ กดลงบนพื้น แรงปฏิกิริยาที่พื้นกระทําต่อวัตถุ แรงดึงเชือก และแรง


               เสียดทาน

               แรงเสียดทาน (Friction Force)

                    1. แรงเสียดทาน หมายถึง แรงที่เกิดระหว่างผิวสัมผัสของวัตถุ เป็นแรงต้านการ


               เคลื่อนที่ของวัตถุ มีทิศ ตรงข้ามกับทิศการเคลื่อนที่ของวัตถุเสมอ 1. ปัจจัยที่มีผลต่อแรง

               เสียดทาน แรงเสียดทานจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ

                        1.1 นํ้าหนักของวัตถุที่กดลงบนผิวสัมผัส ถ้านํ้าหนักมากแรงเสียดทานจะมาก ถ้า


               นํ้าหนักน้อย แรงเสียดทานจะน้อย

                        1.2 ลักษณะของผิวสัมผัส ถ้าผิวสัมผัสขรุขระมากแรงเสียดทานจะมีค่ามาก ถ้าผิว

               ขรุขระน้อย แรงเสียดทานจะน้อย


               อย่างไรก็ตาม แรงเสียดทานจะไม่ขึ้นกับขนาดของพื้นที่ผิวสัมผัส  และความเร็วในการ

               เคลื่อนที่ ของวัตถุ

               2. ชนิดของแรงเสียดทาน แรงเสียดทานที่เกิดขึ้นระหว่างผิวสัมผัสของวัตถุที่เป็นของแข็ง


               มีหลายชนิด

                   21. แรงเสียดทานสถิต (Static Friction) คือ แรงเสียดทานที่เกิดขึ้นเมื่อวัตถุพยายาม

               จะเคลื่อนที่ ซึ่งมีค่าสูงสุดขณะที่วัตถุเริ่มเคลื่อนที่


                   2.2 แรงเสียดทานจลน์ (Kinetic Friction) คือ แรงเสียดทานที่เกิดขึ้นเมื่อวัตฤกําลัง

               เคลื่อนที่

                   2.3. แรงเสียดทานหมุน (Roling Friction) คือ แรงเสียดทานที่เกิดขึ้นเมื่อวัตถุ


               เคลื่อนที่เดยการ หมุนไปบนผิวของอีกวัตถุหนึ่ง เช่น ล้อรถเคลื่อนที่ไปบนถนน ล้อรถไฟ

               เคลื่อนที่ไปตามราง เป็นต้น

               เมื่อเปรียบเทียบค่าแรงเสียดทานทั้ง 3 ชนิด พบว่า แรงเสียดทานสถิตมีค่ามากกว่าแรง


               เสียดทาน จลน์ และแรงเสียดทานจลน์มีค่ามากกว่าแรงเสียดทานหมุน

               วิธีลดแรงเสียดทานในงานช่างทําได้ดังนี้
   52   53   54   55   56   57   58   59   60   61   62